องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 605

ผีพนันเฟิ๋งหรี่ตามองฉินเหยียน ไม่คิดว่าบนโลกนี้ยังมีคนโง่เช่นนี้อยู่ เขายิ้มอย่างชั่วร้ายว่า

“ชามเดียวไม่พอ กินไม่อิ่ม ขอสามขาม!”

ฉินเหยียนยิ้มและพูดว่า

“อยากกินมากเท่าไรก็กินเถิด เรื่องเงินข้าจัดการเอง”

ผีพนันเฟิ๋งประหลาดใจอย่างมาก ดูเหมือนชายคนนี้จะทั้งโง่ทั้งรวย

กลอกตาไปที่พนักงานอย่างดูถูก และพูดอย่างมีอำนาจเหนือกว่าว่า

“ได้ยินแล้วใช่หรือไม่ รีบนำบะหมี่มา!”

ความคิดของพนักงานเปลี่ยนไปในทันที

“ได้ขอรับ! ท่านรอสักครู่!”

รีบหมุนตัวกลับไปเตรียมตัวทันที อย่างไรก็ตามในโลกนี้ใครบ้างที่ไม่ต้องการเงิน

ผีพนันเฟิ๋งเดินตรงไปหาฉินเหยียนพร้อมกับมีด นั่งลงข้างๆ เขา เอียงศีรษะมองเขาและถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า

“น้องชาย เจ้าเป็นใครกัน จากสำเนียงเจ้าแล้วดูเหมือนจะไม่ใช่คนที่นี่?”

ฉินเหยียนคิดหาเหตุผลขึ้นมา

“ข้าหนีมาที่นี่”

ผีพนันเฟิ๋งพยักหน้าอย่างครุ่นคิด เงยหน้ามองหญิงสาวสองคนที่อยู่ข้างฉินเหยียน เห็นว่าผู้หยิงสองคนนั้นไม่ใช่ผู้หยิงที่ดีสักเท่าไร จึงยิ้มชั่วร้ายว่า

“โอ้ เจ้าควบสองเลยหรือ แต่ทว่าเจ้าพกเงินมาเยอะขนาดนี้ ไม่กลัวโดนปล้นหรอกหรือ?”

ขณะที่เขาพูด เขาพลางวางมือไว้บนโต๊ะและมีความคิดไม่ดีในใจ

โสแภณีหญิงที่เงียบในตอนแรก ได้ยินที่ชายคนนั้นพูดดูเหมือนเขาจะเข้าใจผิด จึงรีบอธิบายว่า

“ไม่ใช่ ท่านนี้เป็นผู้มีพระคุณของข้า เขาเป็นหมอ ลูกชายข้าป่วย ข้ามาขอช่วยให้เขารักษาลูกชายข้าเจ้าค่ะ”

ผีพนันเฟิ๋งยิ้งอย่างกระอักกระอ่วน

“น้องชาย เจ้าเป็นหมอหรอกหรือ!”

เดิมทีเขาต้องการขโมยเงินฉินเหยียน เขามีกฎว่า เขาจะไม่ปล้นหมอ หรือรังแกคนแก่ คนอ่อนแอ หรือคนพิการ

ท้ายที่สุดแล้วโลกแห่งความวุ่นวายนี้ หมอเป็นอาชีพที่ต้องรักษาและช่วยเหลือประชาชน มีคุณธรรม เขาจึงละทิ้งความคิดชั่วร้ายของเขา

ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น พนักงานก็เข้ามาวางบะหมี่

ผีพนันเฟิ๋งไม่รอช้า รีบหยิชามบะหมี่ขึ้นมาแล้วตักเข้าปาก

ราวกับว่าเขาหิวมาหลายวัน บะหมี่ร้อนสามชามกลับหายวับไปในพริบตา เขาพูดอย่างพอใจว่า

“อิ่มแล้ว!”

หลังจากที่พวกเขาทั้งสี่กินบะหมี่เสร็จ ฉินเหยียนก็ขอให้พนักงานนำบะหมี่หนึ่งชามมาให้หญิงโสเภณี

หญิงโสเภณีน้ำตาไหลและพูดขอบคุณ

หลังจากที่ฉินเหยียนพูดปลอบสองสามคำ เขาก็หยิบเงินออกจากกระเป๋าและจ่ายเงิน

ครั้งนี้พนักงานได้เงินไปมากมาย หลังจากได้รับเงิน เขานั่งนำเงินจำนวนมากอย่างมีความสุข ส่งฉินเหยียนและคนอื่นออกจากร้านอย่างถ่อมตัว

ฉินเหยียนมองไปที่หญิงโสเภณีแล้วถามว่า

“บ้านของเจ้าอยู่ที่ใด?”

หญิงโสเภณีเดินนำหน้าไปด้วยความลำบากใจ

“ได้โปรดเมตตาพวกเราด้วย ให้เงินพวกเราหน่อยเถิด!”

หญิงโสเภณีไม่ได้มีท่าทีตกใจ นางก้มศีรษะลงและเดินนำทางไป

เสี่ยวจิ่วคว้าแขนเสื้อของฉินเหยียนด้วยความกลัว เดินตามเขาไปอย่างใกล้ชิด

ผีพนันเฟิ๋งถือมีดไว้ ดวงตาเขาเย็นชา ใช้รังสีความไม่เป็นมิตรของเขาทำให้พวกคนยากจนเหล่านี้หวาดกลัว

ทั้งสี่เดินผ่านตรอกนั้นจนมาถึงบ้านของหญิงโสเภณี

เสารั้วบิดเบี้ยว มีผ้ามุงจากบางๆ ที่แค่บังแดดบังฝนเท่านั้น

ไม่ได้ล็อกประตู เพราะบ้านหลังนี้ไม่มีขอมีค่าแม้แต่ชิ้นเดียว

ผนังเต็มไปด้วยความชื้น ห้องเล็กเพียงแค่ฝ่ามือ มีเพียงที่ทำจากกองหญ้า

เด็กน้อยที่เหลือแต่โครงกระดูก หน้าซีด นอนอยู่ เหมือนกำลังจะตายลงในไม่ช้า

ผีพนันเฟิ๋งเหลือบมองไปที่เด็กน้อยและพูดอย่างเย็นชาว่า

“ช่วยไปก็เสียเวลาเปล่า เขาไม่น่ารอดหรอก”

พูดจบก็หันหลังกลับไป เดินออกไปนอกประตู เด็ดหญ้าขึ้นมาอมไว้ในปาก พิงกำแพงรอฉินเหยียนอย่างสบายๆ

ได้ยินเสียงหญิงโสเภณีร้องไห้ดังออกมา

“ท่านช่วยคิดหาทางหน่อยเถิดเจ้าค่ะ ข้าขอร้องท่านนะเจ้าคะ ได้โปรดช่วยด้วย!”

ฉินเหยียนตรวจสอบอาการป่วยของเด็กน้อยและพูดอย่างมั่นใจ

“เจ้าไม่ต้องกังวล มีข้าอยู่ ลูกชายเจ้าไม่มีวันตายแน่นอน เจ้าไปหมักเหล้ามาให้ข้าเสีย หากไม่มีเหล้า เอาน้ำมา ข้าจะเช็ดตัวให้เขา”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์