ออร่าของเฝิงตู่เปลี่ยนไปทันที เขาไม่ได้ถามอะไรมากและตามคนชุดออกไป ทั้งสองเดินมาจนถึงมุมลึกในตรอกซอยที่เงียบสงบ
เฝิงตู่กอดอกเอียงศีรษะแล้วมองคนชุดดำพร้อมถามขึ้นว่า “ภารกิจอะไร?”
คนชุดดำพูดเสียงเย็นชาว่า “ลอบสังหารอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน”
เฝิงตู่หรี่ตาลง อ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินนั้นถือเป็นผู้นำที่สร้างความสั่นสะเทือน เขาเองก็เคยได้ยินชื่อมานานแล้ว ว่ากันว่าคนผู้นี้คือพระเจ้าลงมาจุติ สามารถควบคุมสายฟ้าและสายน้ำได้ สามารถกวาดล้างกองทัพหลายแสนคนของอาณาจักรจ้าวได้โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
มีผู้คนที่อยากจะลอบสังหารอ๋องเหยียนมากมาย แต่ก็ไม่มีใครที่สำเร็จ ล้วนถูกสวนกลับจนตาย หากจะทำภารกิจนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เฝิงตู่แสร้งพูดว่า “อ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินสังหารยาก การจะไปสังหารเขาจะตายได้ง่ายๆ เพิ่มเงินมา”
คนชุดดำไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เขายื่นตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงให้เขา เฝิงตู่รับตั๋วเงินมา ถ้าในยามปกติเงินหนึ่งร้อยตำลึงเพียงพอให้เขาใช้ชีวิตเที่ยวเตร่ได้ช่วงระยะหนึ่งแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับยิ้มไม่ออกเลย การสังหารอ๋องเหยียน เขาไม่มั่นใจ
ตอนที่คนชุดดำจะจากไปเฝิงตู่ก็พูดเสียงเย็นชาว่า “หากเรื่องที่สามจบลง ข้าก็ไม่ติดค้างเจ้าแล้ว”
คนชุดดำหยุดยืนอยู่กับที่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “รอเจ้าจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วค่อยว่ากัน”
เฝิงตู่กำตั๋วเงินแน่น “วางใจเถิด หากข้าออกมือ อ๋องเหยียนต้องตายแน่อน!”
คนชุดดำไม่ได้พูดอะไรต่อและหายตัวไป เฝิงตู่ยืนอึ้งอยู่กับที่อยู่นาน คลื่นลูกใหญ่ที่พลุ่งพล่านในใจเขา ผ่านไปนานกว่าจะดึงสติกลับมาได้ เขาเก็บตั๋วเงินเอาไว้แล้วมุ่งหน้าไปยังร้านตีเหล็กที่ดีที่สุดในเมือง หากต้องการลอบสังหารอ๋องเหยียน ดาบจะไม่คมไม่ได้
“ลับมีด!”
เขาวางเงินสิบตำลึงเอาไว้บนโต๊ะ
......
ขณะเดียวกัน
ฉินเหยียนพาเสี่ยวจิ่วมาถึงยังด้านล่างหอหม่านฮวา พวกต้าหย่งและหยางจิ่นซิ่วรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่นานแล้ว เมื่อเห็นว่าทั้งสองกลับมาแล้วทุกคนก็พากันประสานมือคารวะคำนับ
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเหยียนมองสีหน้าที่หนักใจของทุกคนแล้วก็พูดอย่างขบขันว่า “โอ้ นี่พวกเจ้ากำลังรอข้าอยู่รึ”
หยางจิ่นซิ่วเดินเข้าไปต้อนรับแล้วถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงว่า “ท่านอ๋องพาเสี่ยวจิ่วไปเที่ยวที่ใดมา เหตุใดจึงกลับค่ำเช่นนี้?”
ทั้งสามพูดพร้อมกันว่า “ยืมมือบุคคลที่สาม?”
ฉินเหยียนพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ใช่แล้ว บอกจ้าวจีเอ๋อร์ว่าพรุ่งนี้เช้าให้ประกาศต่อชาวเมืองในนามของราชวงศ์ ว่าเสบียงที่คนอาณาจักรฉินส่งมาช่วยเหลือได้มาถึงแล้ว แต่ตระกูลขุนนางแห่งอาณาจักรจ้าวปฏิเสธรับ ต่อให้ต้องเสียสละชีวิตของชาวเมืองก็ไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากอาณาจักรฉิน”
“ต่อให้ฮ่องเต้หญิงจะตระหนักถึงความรู้สึกของชาวเมืองแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจเอาชนะความคิดของขุนนางได้เลย จึงได้ออกประกาศเพื่อขอความเห็นจากชาวเมืองโดยเฉพาะ เมื่อเป็นเช่นนี้ปัญหาก็เปลี่ยนไปแล้วสิ”
ทั้งสามครุ่นคิดอย่างละเอียด หลี่ชางพูดขึ้นมาก่อนคนแรกว่า
“ท่านอ๋องวิธีนี้สุดยอดไปเลยพ่ะย่ะค่ะ เช่นนี้ปัญหาระหว่างอาณาจักรฉินและอาณาจักรจ้าวก็กลายเป็นปัญหาภายในของอาณาจักรจ้าวแล้ว!”
ต้าหย่งเองก็เข้าใจทันทีและพูดว่า “เมื่อทำการประกาศแล้ว เพื่อรอดชีวิตชาวเมืองอาณาจักรจ้าวจะต้องเอะอะโวยวายอย่างมากแน่นนอน และบีบบังคับให้พวกขุนนางต้องยอมรับ”
หยางจิ่นซิ่วกอดอกแล้วหัวเราะพร้อมพูดว่า “เจ้าเหนือกว่าจริงๆ!”
ฉินเหยียนยักไหล่ “ไม่เช่นนั้นจะทำอย่างไรได้ สถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว จะให้ชี้หน้าด่าทอพวกขุนนางเก่าให้พวกมันกระจ่างงั้นรึ? อย่างไรก็ตาม ชาวเมืองไม่มีทางสนใจเรื่องความยุติธรรมของอาณาจักรหรอก พวกเขาสนใจเพียงจะมีชีวิตรอดรึไม่”
หลังจากการหารือแล้วทุกคนก็ทำหน้าที่ของตน แบ่งกองกำลังออกเป็นหลายกลุ่ม และเริ่มทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...