สองหมื่นตำลึงทองนั้นเป็นคำพูดที่พูดกันบ่อยๆ แต่เมื่อวางอยู่ตรงๆหน้าจริงๆแล้ว ก็ทำให้ใจเต้นเร็วและละสายตาไม่ได้เลย ทองคำแวววาวจนดึงดูดสายตาอย่างมาก จนพูดความในใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“ทองคำมากมายเพียงนี้ยกให้พวกข้าทั้งหมดงั้นรึ?”
ผู้นำตระกูลขุนนางที่จิตใจไม่แน่วแน่ และลูกหลานที่อายุยังน้อยต่างก็ถามออกมาอย่างไม่รู้ตัว แม้ว่าจะเป็นตระกูลขุนนางใหญ่ เคยครอบครองทรัพย์สินมากกว่านี้ แต่ในช่วงโกลาหลนี้ พวกเขาก็ไม่มีเงินทองมากมายนัก
เพราะความโลภ อันนำมนุษย์ไปสู่หายนะ เพียงแค่มองปราดเดียวก็ไม่อาจละสายตาไปได้แล้ว พวกเขาถูกทองคำที่แวววาวดึงดูดไปอย่างสิ้นเชิง
บางคนไม่อาจปิดบังความโลภมากของตนเองได้ บางคนเงียบไม่พูดอะไรแต่แววตาร้อนแรง และมีบางคนที่ดูถูก
“ข้าฟังความของอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินไม่เข้าใจเท่าไร”
“ได้รับค่าตอบแทนโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย จู่ๆก็เอาทองมากมายขนาดนี้มาให้พวกข้า ทำให้พวกข้าผวานัก”
“ดูท่าสิ่งที่จะให้เราช่วยคงไม่ใช่เรื่องเล็กสินะ”
“เจ้าและพวกข้าไม่ใช่คนทางเดียวกัน ทองคำเหล่านี้ไม่อาจทำให้พวกข้าหวั่นไหวได้ หากช่วยได้ก็จะช่วย แต่หากไม่ได้ก็ไม่ช่วย อย่าได้บีบบังคับกัน”
ทุกคนล้วนเห็นด้วยกับคำพูดนี้ ต่างก็จับจ้องฉินเหยียนรอคอยเขาพูดอย่างพร้อมเพรียงกัน
“เช่นนั้นข้าก็ขอพูดให้กระจ่างหน่อยละกัน” ฉินเหยียนพูดตรงประเด็น “ทุกท่านมาเป็นคนของอาณาจักรฉินเถิด!”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วเหล่าตระกูลขุนนางก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที แววตาประกาย
“ทองคำเป็นเพียงของขวัญการพบหน้า ตราบใดที่พวกท่านภักดีต่ออาณาจักรฉิน ในอาณาเขตพื้นที่อาณาจักรจ้าวในอนาคต ข้าจะรับรองว่าพวกเจ้าจะมีอำนาจมากมาย ทำให้แต่ละตระกูลรุ่งเรืองไปอีกร้อยปี อีกอย่าง อาณาจักรฉินยังจะแต่งตั้งตำแหน่งให้ด้วย ถึงตอนนั้นก็จะเป็น......ขุนนางระดับที่หนึ่ง!”
จู่ๆฉินเหยียนก็กางแขนออกแล้วกวาดตามองทุกคน และพูดอย่างฮึกเหิมว่า
“ได้รับการแต่งตั้งยศสูงทุกชั่วอายุคน มรดกถาวรตกทอดรุ่นสู่รุ่น เจริญรุ่งเรืองอย่างที่สุด!”
สิ้นเสียง เหล่าขุนนางก็ตกตะลึงไปกันหมด มีบางคนที่พร้อมที่จะดำเนินการ บางคนหัวใจเต้นเร็ว และมีบางทีที่ถึงกับตาแดงจนแทบจะตอบตกลงทันที
“ทุกท่าน อาหารได้ตระเตรียมเรียบร้อยแล้ว เชิญ”
คำพูดประโยคสุดท้ายของฉินเหยียนได้ทลายกำแพงในใจสุดท้ายของหลายคนไป ความโลภและความปรารถนาเติบโตขึ้นในใจเรื่อยๆ นี่คือการไม่อาจต้านความล่อลวงได้
หากทานอาหาร ก็คือการตอบรับคำขอของคนอาณาจักรฉิน ไม่ทานก็คือไม่เจียมตัว เป็นศัตรูของคนอาณาจักรฉิน จะเลือกอย่างไร ใช้หัวแม่โป้งเท้าคิดก็คิดได้แล้ว และในขณะที่เหล่าผู้นำตระกูลขุนนางกำลังจะถือตะเกียบขึ้นมา
จ้าวจีเอ๋อร์ยื่นตะเกียบไปเบื้องหน้าของผู้นำตระกูลแล้วจ้องมองเขา เห็นได้ชัดว่าให้เขาเป็นผู้นำก้มหัวให้ ผู้อาวุโสสบตากับจ้าวจีเอ๋อร์ ผ่านไปนาน สุดท้ายก็ยังคงโบกมือ
“อาณาจักรล่มสลายแล้ว จะให้ข้าทานอาหารขอคนอาณาจักรฉิน ข้าทำไม่ได้”
ว่าแล้วเชาก็หันหลังเดินไป “บางทีเจ้าอาจจะถูก และข้าก็ไม่ได้ผิด ใครจะรู้เล่า ทุกอย่างมีชะตาลิขิต จะร่ำรวยขึ้นอยู่กับวาสนา มองให้เรียบง่ายก็พอ ”
“แคร้ง” กองกำลังพยัคฆ์เสือดาวที่อยู่หน้าประตูชักดาบออกมา
“ท่านพ่อ!” ลูกชายที่อยู่ตระกูลเดียวกันเรียกผู้เป็นพ่อเอาไว้ “ตอบตกลงกับพวกเขาเถิด นี่คือความรุ่งเรืองมั่งคั่งที่ไม่มีที่สิ้นสุดเชียวนะขอรับ”
ผู้อาวุโสหันกลับไปมองฉินเหยียนที่ไม่พูดอะไร “ความรุ่งเรืองมั่งคั่งนั้น สำหรับข้าที่แก่ชราแล้วมันก็แค่เมฆหมอกที่ผ่านตา อาหารง่ายๆ เมื่อจบชีวิตลงแล้วสุดท้ายก็ต้องกลับสู่พื้นดิน เพียงแต่เมื่อลงนรกแล้ว ก็ไม่อยากจะถูกบรรพบุรุษนินทาลับหลัง”
ฉินเหยียนโบกมือ “เจ้ามีความชอบธรรม ข้าขอนับถือ หากอยากจะไปก็ไปได้ ข้าจะไม่ห้าม หลีกทางให้เขา”
กองทัพพยัคฆ์เสือดาวต่างถอย แล้วฉินเหยียนก็ออกคำสั่งต่อว่า
“ส่งแขก คนอื่นๆใครอยากจะไปก็ย่อมได้ ประตูแห่งอาณาจักรฉิน เปิดต้อนรับทุกท่านเสมอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...