องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 682

คืนก่อนงานอภิเษกสมรส

ทุกคนปฏิบัติหน้าที่และเตรียมงานกันอย่างเต็มที่

ไม่ว่าประชาชนในอาณาจักร ทูตจากต่างอาณาจักร หรือพ่อค้าจากทั่วทุกมุมโลก ทุกคนต่างพากันตื่นเต้น

แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว พวกเขายังคงตื่นเต้นมาก

หน่วยลาดตระเวนเพิ่มการลาดตระเวนในหมู่นักแสดงเพิ่มมากขึ้น ส่วนประชาชนรวมตัวกันเพื่อดื่ม พูดคุยและเฉลิมฉลองกันอย่างครึกครื้น

เป็นงานเฉลิมฉลองระดับชาติ คนทั้งเมืองต่างเฝ้ารอคอยการเฉลิงฉลองในวันพรุ่งนี้

...

วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าสว่างแล้ว

งานแต่งงานที่ทุกคนรอคอยกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว

เมือเซียนตูถูกปิด ระหว่างทางจากด่านเจียยวี่ไปสู่เมืองเวิ่งเฉิง ไม่ว่าตามถนนหรือตรอกซอกซอยจะมีทหารคุ้มกันค่อยยืนเฝ้าทุกๆ หนึ่งเมตร

ทหารยามเหล่านี้สวชุดเกราะ แต่งตัวเรียบร้อย สีหน้าจริงจัง ยืนจับหอกอย่างเงียบขรึม

มีทหารจำนวนมากถึงหนึ่งแสนนายยืนเรียงรายบนถนนสายหลักแห่งนี้

ประชาชนนับพันรวมตัวกันในอาคารทั้งสองฝั่งของถนนสายหลัก พยายามชะเง้อหน้ามองออกมา

บนถนน ในอาหาร ในบ้านเรือน หรือแม้แต่บนต้นไม้ สถานที่ใดก็ตามที่สามารถไปอยู่ได้ จะเห็นคนจำนวนมากอยู่ที่นั่น

...

ด้านในด่านเจียยวี่

ฉินเหยียนแต่งตัวเรียบร้อย เขาสวมชุดแต่งงานสีแดงสดใส ผมถูกหวีรวบตึงอย่างเรียบร้อย มีดอกไม้สีแดงขนาดใหญ่ที่ทำจากผ้าไหมแขวนอยู่ด้านหน้า เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข

เถ้าแก่ติดตามเจ้าบ่าวได้เลือกเวลาเหมาะสม ประกาศเสียงดังออกมาว่า

“ฤกษ์อันเป็นมงคลมาถึงแล้ว!”

หลังจากพูดจบ กลุ่มพิธีอภิเษกสมรสก็ออกมาพร้อมกับตีกลองและฆ้อง

ประชาชนทั่วไปต่างร่วมยินดี นำโดยกลุ่มคนถือสินสอดและเถ้าแก่ ต่างพากันเล่นดนตรีเฉลิมฉลองพิธีอภิเษกสมรส

ฝั่งอาณาจักรฉิน กองพันทหารม้าเสือดาว กองพันหมาป่า และบรรดาคนที่ทำคุณประโยชน์ให้อาณาจักรฉิน ทหารชั้นยอดนับหมื่นคนเข้าแถวเพื่อต้อนรับเจ้าสาว เป็นขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่มาก

แม้ว่าพวกเขาจะเล่นดนตรีร่วมขบวน แต่กลับมีจิตสังหารและความระแวดระวังแผ่มวลไปรอบตัว

กลุ่มคนหนึ่งหมื่นคนนำขบวนและอีกหนึ่งหมื่นคนปิดท้ายขบวน ตรงกลางขบวนมีรถที่หน้าตาแปลกๆ ขับมาด้วยอย่างช้าๆ

รถเป็นเหมือนบ้านหลังเล็ก แต่ก็เหมือนบัลลังก์ ดัดแปลงมาจากรถเก๋ง ไม่มีคนเข็น ไม่มีม้าลาก สามารถขับได้เองโดยไม่ต้องใช้กำลังคน

ประชาชนต่างมองด้วยความตื่นเต้นและตกตะลึง!

นี่คือเวทมนตร์อะไรกัน ช่างเหลือเชื่อเสียจริงที่รถคันนี้สามารถเคลื่อนที่เองได้

ประชาชนรอบข้างต่างพากันอ้าปากค้างและร้องอุทานออกมา

“พระเจ้า อ๋องเหยียนเป็นเทพเจ้ามาเกิดจริงๆ เขาทำให้บ้านเคลื่อนที่ได้เอง!”

“ภายในเมืองมีการจัดวางคนไว้กี่คน?”

ลูกน้องรายงานว่า

“นายหญิง จากด่านเจียยวี่ถึงเมืองเวิ่งเฉิง ได้จัดเตรียมคนไว้หนึ่งล้านคน”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ขมวดคิ้วและคำนวณในใจ

มีข่าวลือว่าจะมีองคกรณืกว่าสี่สิบองกรณ์ตั้งใจขัดขวางงานอภิเษกสมรสในวันนี้

คนพวกนี้มักซ่อนตัวและไม่แสดงท่าทีออกมา ดังนั้นคนในตำหนักอ๋องเหยียนจึงไม่ได้รับอนุญาตให้บุ่มบ่ามลงมือ

แต่วันนี้มีคำสั่งว่า ใครกล้าแสดงอาวุธ หรือแม้แต่เด็กก็ตามที่เป็นภัยต่ออ๋องเหยียนต้องถูกจัดการ พวกเขายึดหลักการจับตัวมากกว่าปล่อยตัวไป มีคำสั่งออกไปว่า

“ไม่พอ อย่างน้อยต้องสองล้านคน รีบระดมคนให้เพียงพอและเสริมมาตรการป้องกันอย่างเต็มที่ มิฉะนั้นหากเกิดเรื่องร้ายแรง พวกเราไม่มีวิธีที่จะอธิบายให้อ๋องเหยียนทราบได้”

ลูกน้องพูดอย่างโล่งใจ

“นายหญิงวางใจเถิดขอรับ ในเมืองมีนักฆ่าแค่ไม่กี่ร้อยคน แต่พวกเรามีตั้งหลายล้านคน ไม่มีทางเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นได้แน่นอนขอรับ”

ทันใดนั้นสีหน้าของฉีเยี่ยนเอ๋อร์พลันไม่พอใจ นางเบิกตากว้างและพูดว่า

“เจ้าโง่! หากมีเพียงแค่หนึ่งคนลงมือทำร้ายอ๋องเหยียน ก็สร้างความเสียหายให้กับพวกเราได้แล้ว!”

ลูกน้องไม่กล้าเพิกเฉยอีกต่อไป รีบยกมือขึ้นรายงานว่า

“ขอรับ ข้าน้อยจะเพิ่มจำนวนคนขึ้นเป็นสองเท่าเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นแน่นอนขอรับ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์