เจ้าของร้านไม่คิดว่าฉินเหยียนจะวางอำนาจบาตรใหญ่ขนาดนี้ อีกทั้งยังหยิบเงินออกมาจำนวนมาก เขาอึ้งไปในทันที
แต่แล้วก็คิดได้ว่า นี่คือร้านน้ำชาของเขา คิดจะใช้เงินฟาดหัวเขาแสดงความอ่อนแอต่อหน้าผู้หญิงสองคนนั้นหรือ เขาไม่ยอม!
เจ้าของร้านยืดหลังและปฏิเสธ
“นี่คือร้านน้ำชาของข้า ข้าเป็นคนตัดสินใจว่าจะขายหรือไม่ขายให้ใคร ข้าบอกกับเจ้าให้ชัดเจนไว้ตรงนี้เลยว่า ไม่ขาย!”
ฉินเหยียนยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้โต้เถียงกับเจ้าของร้าน เขาหันไปหาหยางจิ่นซิ่วกับเซี่ยชิงและพูดว่า
“แม่นางทั้งสอง ให้พวกเจ้าจัดการแล้วล่ะ แสดงให้ข้าเห็นถึงความสามารถเสียหน่อย!”
หยางจิ่นซิ่วพลิกโต๊ะโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เซี่ยชิงหยิบเก้าอี้ตัวหนึ่งขึ้นมาและเริ่มโยน
ลูกค้าในร้านต่างตกใจ ร้องเสียงหลงและวิ่งหนีออกไป
เจ้าของร้านไม่คาดคิดว่าชาวต่างเมืองจะกล้าฝ่าฝืนกฎถึงเพียงนี้ เขารีบก้าวขึ้นไปข้างหน้าเพื่อหยุดพวกเขา
“หยุดพังร้านข้า หยุดเดี๋ยวนี้!”
แต่หยางจิ่นซิ่วและเซี่ยชิงคือใครกันล่ะ พวกนางเป็นหนึ่งในสิบอันดับนักสู้ พวกนางจะสนใจเจ้าของร้านไปทำไม?
พวกนางทั้งสองเล่นลูกไม้นี้กับเจ้าของร้าน ตอนที่เจ้าของร้านพยายามหยุดหยางจิ่นซิ่ว เซี่ยชิงเองก็เริ่มทำลายข้าวของไปทั่ว
เมื่อเจ้าของหันกลับมาหยุดเซี่ยชิง หยางจิ่นซิ่วก็ลงมืออีกครั้งคว่ำโต๊ะและเก้าอี้จนหมด
แม้แต่เตาต้มน้ำชาก็ถูกทำลาย เจ้าของร้านเองก็กังวลใจร้องเสียงหลง
“พระเจ้า นี่เป็นเตาต้มน้ำชาที่บรรพบุรุษข้าส่งมอบมาให้ เจ้าทำมันแตกอย่างนั้นหรือ?”
ในเวลาเพียงครู่หนึ่ง ร้านน้ำชาเต็มไปด้วยความวุ่นวาย
เมื่อเห็นว่าทุกอย่างพังจนหมด เจ้าของร้านนั่งลงกับพื้นแล้วร้องตะโกนว่า
“หมดแล้ว! หมดสิ้นทุกอย่างแล้ว! ร้านน้ำชาของข้า!”
ฉินเหยียนเดินเข้าไปที่ร้านม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่น้อย เขาหยิบเงินห้าร้อยตเหรียญออกมาแล้ว แล้วโยนใส่เขา
“ข้าจ่ายเงินให้เจ้า หลังจากนี้ร้านน้ำชาแห่งนี้เป็นของข้าแล้ว”
เจ้าของร้านมองไปที่ฉินเหยียนด้วยสายตาโกรธแค้น
“รอข้าก่อนเถอะ ข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่ทางการทราบ!”
เมื่อเขาลุกขึ้น ก็ไม่ลืมที่จะเก็บเงินห้าร้อยเหรียญนั้นไปด้วย รีบวิ่งตรงไปยังศาลาว่าการเพื่อรายงานเจ้าหน้าที่ทันที
หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าของร้านกลับมาที่ร้านน้ำชาด้วยความโกรธ มีตำรวจสองคนตามมาด้วย
บังเอิญว่าตำรวจสองคนนี้เป็นคนเดียวกับเมื่อตอนเช้าที่ร้านอาหาร
ทันทีที่นักสืบเข้าไปในร้าน ก็พบว่าร้านน้ำชาอยู่ในสภาพที่จำแทบไม่ได้ มีชาวต่างเมืองนั่งอยู่สามคนในร้านอย่างสบายใจ ความจริงชัดเจนอยู่ตรงหน้าอยู่แล้ว
เขาชี้ไปที่ฉินเหยียนและคนอื่น พร้อมกับตะโกนด้วยความโกรธ
“ข้าจับเจ้าได้แล้ว ครั้งนี้จะปฏิเสธอีกหรือไม่?”
ฉินเหยียนพูดด้วยหน้าตาไร้เดียงสา
เมื่อครู่เขาหุนหันพลันแล่นเกินไป แต่ตอนนี้เขาตระหนักได้แล้วว่าตอนนี้เขามีเงิน จึงเปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว
“ในเมื่อคุณตำรวจเอ่ยปากเช่นนี้ ข้าไม่เถียงกับเจ้าแล้ว ข้าไม่สามารถอยู่ร่วมกับพวกคนสกปรกเช่นพวกเจ้าได้!”
หลังจากพูดเช่นนั้นเขาก็เดินออกจากร้านน้ำชาไป
ฉินเหยียนพูดอย่างภูมิใจ
“ในเมื่อตอนนี้มีทั้งร้านอาหารและร้านน้ำชา หลังจากนี้พวกเราไปซื้อวัตุดิบกันเถอะ ไป แม่นางทั้งสองข้าจะพาเจ้าไปซื้อวัตถุดิบเอง!”
เมื่อตำรวจได้ยินว่าชาวต่างเมืองนี้จะไปซื้อวัตถุดิบ เขาก็รู้ทันทีว่าร้านขายวัตถุดิบต้องเดือดร้อนเป็นแน่
เขาจึงหันหลังกลับไปยังร้านขายวัตถุดิบโดยไม่ลังเล
เจ้าของร้านขายวัตถุดิบเห็นตำรวจเข้ามาก็ยิ้มทักทาย
“ท่านใต้เท้าทั้งสอง ลมอะไรหอบท่านมาถึงที่นี่ รีบเข้ามาเร็ว!”
ตำรวจทั้งสองไม่มีเวลาทักทายเจ้าของร้านมากนัก พูดออกไปตรงๆ ว่า
“รีบปิดร้านเร็วเข้า มีคนจะมาทำลายร้านของเจ้า รีบปิดประตู!”
พูดออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เจ้าของร้านพลันงุนงง
“ทั้งสองท่านพูดช้าลงเสียหน่อย เหตุใดถึงต้องปิดร้านด้วยในเมื่ออากาศก็สดใส”
ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้น ฉินเหยียน หยางจิ่นซิ่ว และเซี่ยชิงก็เดินเข้าไปในร้านด้วยท่าทีหยิ่งผยงแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...