องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 705

เฝิงตู่ตอบกลับไปอย่างไม่คิด

“ข้าเป็นคนคุ้มกันสินค้าจากอาณาจักรฉิน”

หมอซีได้ยินว่าเป็นผู้คุ้มกันสินค้าจากอาณาจักรฉิน ทันใดนั้นพลันมีแรงขึ้นมา ถามกลับอย่างรวดเร็ว

“เช่นนั้นหากข้าต้องการให้เจ้าส่งของให้ข้า เจ้าคิดข้าเท่าไหร่?”

เฝิงตู่ตอบกลับ

“ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะส่งอะไร”

หมอซีดีใจมากและรีบหยิบจดหมายออกมา

“ข้ามีจดหมายที่อยากจะส่งไปยังอาณาจักรหลู่ ถึงแม่นางที่ชื่อว่าจ้าวจือหย่า เจ้าคิดเท่าไร?”

เฝิงตู่ที่ไม่ได้คิดจะช่วยตั้งแต่แรก อีกอย่างเขาก็ไม่ใช่คนคุ้มกันสินค้าจริงๆ อีกทั้งคนทั้งใต้หล้านี้ตามล่าตัวเขา เขาจะหาเรื่องให้ตัวเองลำบากไปทำไม?

แต่เมื่อเขาคิดว่าชายตรงหน้าได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ถือเสียว่าเขาติดหนี้บุญคุณ จึงตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ

“เจ้าช่วยชีวิตข้า ข้าจะไม่ให้เจ้าช่วยข้าโดยเปล่าประโยชน์ จดหมายฉบับนี้ข้าคิดแต่สิบเหรียญ ข้าจะนำจดหมายส่งไปยังอาณาจักรหลู่ให้เจ้า”

เขาไม่ได้พูดอะไรมาก ค่าเดินทางไปยังอาณาจักรหลู่ก็ราคาประมาณสิบเหรียญนั่นแหละ

เมื่อหมอซีได้ยินเขาตกลงส่งจดหมายทันที สีหน้ามีความสุขมาก

“ดีเลย! เจ้ารอข้าอีกสองสามวันนะ อยู่ที่นี่เพื่อพักฟื้นร่างกายไปก่อน ข้าจะหาเงินมาให้เจ้า”

เฝิงตู่รู้ดีว่าอาการบาดเจ็บของตนยังไม่หายดี เขาต้องดูแลรักษาตัวเองให้ดีก่อนที่จะทำอย่างอื่นต่อ ดังนั้นเขาจึงตอบรับคำแนะนำของหมอซีทันที

ด้วยเหตุนี้ทั้งสามจึงอาศัยอยู่ด้วยกัน

ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกของฉินอู๋ซวงที่ได้อาศัยร่วมกับคนอื่น นางจึงเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นในตัวเฝิงตู่

ไม่ว่าเฝิงตู่จะทำอะไร นางก็จะเป็นเหมือนผู้ติดตามตัวน้อยและถามคำถามเขาอยู่เสมอ

ในตอนแรกเฝิงตู่เห็นว่านางนั้นน่ารัก จึงพูดจากับนางอย่างระมัดระวัง

แต่การแสดงของฉินอู๋ซวงทำให้เฝิงตู่ทนกับ “เจ้าหนูจำไม” ตัวน้อยคนี้ไม่ไหวอีกต่อไป ไม่ว่าจะถามอะไรเขาก็ไม่ยอมตอบนาง

แต่ฉินอู๋ซวงดูเหมือนจะมีพลังไม่สิ้นสุด เมื่อเฝิงตู่ไม่ตอบกลับ นางจึงถามเขาต่อ

“คุณลุงแขนเดียว เหตุใดท่านถึงไม่มีแขนล่ะเจ้าคะ?”

“คุณลุงขาเดียว...”

“เจ้านี่น่ารำคาญเสียจริง!”

...

ฉินเหยียนที่อยู่ในหอหม่านฮวาอีกสองสามวัน ปรับอารมณ์ของตน อีกทั้งยังทำป้ายชื่อให้แก่ลูกสาวที่ตายไป

แต่เวลาไม่คอยท่า เขายังมีภารกิจที่ต้องทำ และต้องไปยังสำนักไป๋เสี่ยวเซิงเพื่อเตรียมสอบ

ก่อนออกเดินทาง ฉินเหยียนทิ้งเงินจำนวนไว้ให้กับหลิวเชียนเชียน อีกทั้งยังบอกให้หยางจิ่นซิ่วและเซี่ยชิงอยู่ที่หอหม่านฮวาต่อ และหาทางติดต่อกับบริษัทการค้า ใช้วิธีการเดียวกับเมืองอวิ้น เลียนแบบวิธีนั้นทำให้เมืองหลางหยาวุ่นวายเช่นกัน

หลังจากอธิบายทุกอย่างแล้ว เขาก็มาที่หลุมศพของลูกสาวเพื่อบอกลา

อย่างไรก็ตามนางก็เป็นลูกสาวคนแรกของเขาในภพนี้ เขาเช็ดป้ายชื่ออย่างระมัดระวังและพูดทั้งน้ำตา

“ข้าไม่ให้เห็นหน้าลูกสาวมาก่อน นางได้ตายก่อนที่จะได้เห็นว่าพ่อได้สร้างอะไรไว้ให้เจ้าบ้าง”

“หากชาติหน้ามีจริง พ่อจะดูแลเจ้าอย่างดีเพื่อเป็นการชดเชยความผอดของพ่อ”

...

เช่นนี้หลังจากผ่านไปหลายวัน อาการป่วยของเฝิงตู่ก็เกือบจะหายดีแล้ว จึงลองถามว่า

“เจ้าเก็บเงินได้ครบหรือยัง?”

หมอซีหยิบข้าวของทั้งหมดออกมา ยังหามาได้ไม่ถึงสิบเหรียญ เขาพูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า

“ยังขาดอยู่สองสามเหรียญ เจ้าอย่าเพิ่งรีบร้อน ข้าจะไปเก็บยาเพิ่มเอามาแลกเป็นเงิน บางทีอาจจะพอ”

เฝิงตู่รับเงินและจดหมายจากมือหมอซีแล้วพูดอย่างหงุดหงิด

“พวกเจ้านี่น่าเบื่อเสียจริง!”

“จดหมายฉบับนี้ข้าส่งให้เจ้าเอง ขาดเงินอีกเล็กน้อยก็ช่างมันเสียเถิด ข้าจะช่วยเจ้าจ่ายและส่งให้ถึงมือเอง!”

หลังจากพูดเช่นนั้นเขาก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ฉินอู๋ซวงยืนอยู่ตรงประตู มองดูร่างที่เดินจากไป ตระโกนไล่หลังเสียงดังว่า

“คุณลุงแขนเดียว ท่านจะกลับมากินข้าวเย็นด้วยกันหรือไม่เจ้าคะ?”

เฝิงตู่เองก็ใจหาย ไม่อยากจะพวกเขาไปเช่นกัน ช่วงที่พวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกัน เป็นความสบายใจที่สุดในชีวิตเขาแล้ว

แต่เขาต้องไปเพราะหากเขาออกมาช้ากว่านี้ คนที่ไล่ล่าเขาจะตามเจอ และสร้างความเดือดร้อนให้สองพ่อลูกนี้ได้

เขาจึงโบกมือโดยไม่หันกลับไปมอง

“ข้าไม่กลับมาแล้ว ไม่กลับมาอีกแล้ว!”

ฉินอู๋ซวงร้องไห้ และเม้มริมฝีปากแน่น พร้อมพูดเสียงเบา

“คุณลุงแขนเดียว ข้าจะรอท่านกลับมาเล่านิทานให้ข้าฟังนะเจ้าคะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์