องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 741

ในเวลาเดียวกัน

จ้าวเหวินเซิงเดินไพล่หลังกลับเข้ามาในห้อง

เฉิงอาหนิวจะแต่งงานกับลูกสาวเขาหรือไม่?

เขาร้อนใจเหมือนมดบนหม้อร้อน

แต่จ้าวจือหย่านั่งลงบนเก้าอี้อย่างสงบนิ่งไม่ไหวติง

“แต่งหรือไม่แต่งแล้วอย่างไรเล่า”

จ้าวเหวนิเซิงพูดอย่างจริงจัง

“เด็กโง่ หากเขายืนกรานแต่งงานกับเจ้า พวกเราจะได้ลงมือทำอะไรบางอย่าง จะได้ตั้งโจทย์ยากๆ ในการคัดเลือกคนเข้ามาแต่งงานกับเจ้า ที่เป็นอยู่เช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการถ่วงเวลา แต่ยังถือว่าได้เลือกเขาให้แต่งงานกับเจ้า”

“ด้วยเหตุนี้ หลังจากนี้เจ้าจะเป็นภรรยาของนักปราชญ์ เจ้าลองคิดดูเสีย ไม่เพียงแต่สถานะของเจ้าเท่านั้น แต่สถนานะของตระกูลจ้าวจะดีขึ้นอีกด้วย!”

เมื่อจ้าวเหวินเซิงคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นจริง ไม่มีทางเกิดเรื่องร้ายขึ้นได้เลย เขาพูดอย่างตื่นเต้น

“อีกอย่างตระกูลจ้าวของเรากำลังเปิดรับลูกเขย พูดตามหลักเหตุผลแล้ว ถ้าเฉิงอาหนิวแต่งงานกับตระกูลเรา เขาต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลจ้าว!”

“หากเจ้าได้แต่งงานกับนักปราชญ์ อ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินก็ไม่มีค่าอะไรเลย เขาคิดรังแต่จะรัวแกพวกเราสองพ่อลูก เขาไม่มีความสามารถอันใดเลย!”

จ้าวจือหย่าก้มหน้าลง ไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา นางตอบเสียงเบา

“เช่นนั้นแล้วแต่ท่านพ่อจะจัดการเจ้าค่ะ”

ในเวลานี้ เถาซงจือเข้ามาอย่างเร่งรีบ จ้าวเหวินเซิงไม่รอให้เขาได้พูดรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน

“เกิดอะไรขึ้นกับนักปราชญ์คนใหม่? เขาจะแต่งงานกับลูกสาวข้าหรือไม่?”

เถาซงจือยืนหอบประสานมือรายงานทุกคำพูดที่นักปราชญ์ได้พูดกับเขา

“คิดอยากได้หญิงงามไม่ต้องการสิ่งใดอื่นแล้ว นักปราชญ์สำหรับเขานั้นเป็นเพียงแค่ชื่อนำหน้าก็เท่านั้น หญิงงามเท่านั้นที่จะติดตามเขาได้และเห็นว่ามีอยู่จริง”

ประโยคนี้ทำให้จ้าวเหวินเซิงตกใจเป็นอย่างมาก เขาไม่คิดว่าเฉิงอาหนิวจะหลงรักใครจนโงหัวไม่ขึ้นขนาดนี้ แบบนี้ก็ดี ความหนักอึ้งในใจเขาหายไปแล้ว

“นักปราชญ์พูดแล้วไม่คืนคำ ในเมื่อเขาพูดเช่นนี้ ข้าจะได้สบายใจ ฮ่าๆๆ!”

เถาซงจืออึ้งไปเช่นกันเมื่อได้ยินเช่นนั้น ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ ที่จ้าวเหวินเซิงจัดการงานแต่งงานให้แก่ลูกสาว แทนที่เขาจะยื่นลูกสาวเขาให้ แต่เขากลับจะจัดฉากให้นักปราชญ์คนนี้อย่างหน้าไม่อาย

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร? พูดให้ชัดเจนเสียเดี๋ยวนี้!”

เขาแทบอยากจะพับแขนเสื้อขึ้นทะเลาะกับคณบดี

จ้าวเหวินเซิงลูบเคราเขาและพูดด้วยท่าทีภาคภูมิใจ

“ลูกสาวข้าจะยกให้แต่งงานกับใครก็ได้อย่างนั้นหรือ?”

“ในเมื่อเขาพูดว่าต้องการแต่งงานกับลูกสาวข้า เช่นนั้นข้าต้องทดสอบเขา”

“พรุ่งนี้จัดการงานดูตัว ตระกูลจ้าวของข้าต้องมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน ฮ่าๆๆ!”

“ในเมื่อเขามาที่นี่เพื่อสมัครเป็นลูกเขยของข้า ข้าจะตั้งคำถามทดสอบเขาสามข้อ คำถามเหล่านี้เขาไม่มีทางตอบถูกทั้งหมดอย่างแน่นอน!”

เถาซงจืออึ้งไปครู่หนึ่ง เหตุใดคณบดีจ้าวถึงพูดอย่างที่ใจคิดออกมาเสียทุกอย่าง อีกอย่างเขาคือคนที่ท่านนักปราชญ์ส่งตัวมา เขาพูดออกมาตรงๆ เช่นนี้ได้เลยหรือ?

พูดอีกอย่างหนึ่ง ให้ท่านนักปราชญ์มาสู่ขอเองยังไม่พอ แต่ยังจะทดสอบเขาอีก คณบดีจ้าวนี่สมองกลับหรืออย่างไรกัน?

เถาซงจือส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง เขาไม่เข้าใจความคิดของท่านนักปราชญ์ และไม่อาจเข้าใจความคิดของจ้าวเหวินเซิงเช่นกัน

ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กๆเช่นเขา ในชีวติคงจะยังอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ!

...

ข่าวดีไม่ถูกพูดถึง แต่ข่าวร้ายถูกแพร่ออกไปหลายพันลี้

ข่าวที่ว่านักปราชญ์คนใหม่เข้าร่วมการดูตัวของตระกูลจ้าว แพร่กระจายไปในสำนักศึกษาไป๋ลูทันที ทำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจ

“ตระกูลจ้าวได้คืบจะเอาศอกมากเกินไปแล้ว ต้องการให้นักปราชญ์เป็นลูกเขยเขาให้ได้!”

“ใครว่ามิใช่เล่า ดูสิว่าเขาอวดดีแค่ไหน ถึงขั้นไล่ตามไม่เจรจากันเสียก่อน!”

“ลูกสาวตระกูลจ้าวเองก็ไม่ได้ดีนัก นางไม่คู่ควรกับนักปราชญ์คนใหม่แม้แต่น้อย!”

ทุกทฤษฎีได้กระจายไปทั่วทุกสารทิศ ดึงดูดเด็กจากตระกูลที่ร่ำรวยในอาณาจักรหลู่หลายคนให้มารวมตัวกันที่ด้านนอกของที่พักที่นักปราชญ์คนใหม่อาศัยอยู่ ทุกคนต่างอยากแนะนำญาติผู้หญิงของตนให้เขารู้จัก ไม่ได้เป็นภรรยแต่เป็นนางสนมก็ยังดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์