องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 773

ปิ่นหิรัญย์เสี่ยวฮวาขมวดคิ้วแล้วมองพิจารณาผู้เล่าเรียน

ผู้เล่าเรียนเผยสีหน้าที่คว้าชัยชนะเอาไว้ แล้วประชดว่า

“เป็นอย่างไรเล่า ต่อไม่ได้เลยละสิ ถ้าต่อไม่ได้ก็รีบยอมแพ้ไปเสีย จะได้ไม่ต้องเสียเวลา!”

แต่เสี่ยวอวากลับหัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า “ช่างเป็นคนที่โง่เขลายิ่งนัก คิดจะใช้โครงง่ายๆแค่นี้มาเอาชนะข้ารึ? ข้าว่าระดับของเจ้ายังสู้คนเมื่อกี้นี้ไม่ได้เลย”

คราวนี้ไม่เพียงแค่ผู้เล่าเรียน แม้แต่เหล่าผู้เล่าเรียนที่กำลังวิเคราะห์อยู่รอบๆเองก็ได้ยินเสียงประชดประชัน และพูดอย่างดูถูกว่า

“นางกล้าพูดว่าง่ายงั้นรึ นางเอาความมั่นใจมาจากที่ใดกัน?”

“กล่าววาจาโอหังเช่นนี้ พวกเรามาดูกันดีกว่าว่านางจะต่อโครงอย่างไร!”

ผู้เล่าเรียนพูดด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยวว่า “อย่าหาเรื่องใส่ตัวละกันนะ!”

เสี่ยวฮวาหลุดหัวเราะ “ฟังให้ดีล่ะ ข้าขอต่อโครงว่าอินฮั่วเฉินเหยียนซีซีตัว” *มีความหมายว่า เพราะไฟจึงมีควันมากขึ้นทุกวัน

สีหน้าของผู้เล่าเรียนอึ้งไป “ปะ เป็นไปได้อย่างไร?”

เขาไม่คิดเลยว่าเสี่ยวฮวาจะต่อโครงได้อย่างดีมากเช่นนี้

โดยมีความหมายว่า ในทุกค่ำคืนทุกๆวัน ทุกๆหลังคาเรือนกำลังเผาฟืนเพื่อทำอาหาร และมีควันลอยขึ้นตามๆกัน

เป็นคำประกอบเช่นเดียวกัน แถมยังเข้ากับบรรยากาศด้วย

หากไม่ใช่สถานการณ์ที่แข่งขันกัน เขาก็อยากจะตะโกนว่าสุดยอดจริงๆ

เหล่าผู้เล่าเรียนที่มาชื่นชมต่างก็ตกตะลึงกันอย่างมาก

“ไม่มีทาง นี่ต่อโครงได้แล้วรึ!”

“การต่อและเสียงตัวอักษรเช่นนี้ สุดยอด! สุดยอดเกินไปแล้ว!”

เสี่ยวฮวายิ้มบางๆแล้วพูดว่า “ต้องขออภัยด้วยนะ แม้ว่าข้าจะหาเรื่อง แต่กลับหาเรื่องใส่เจ้า”

ผู้เล่าเรียนสีหน้าไม่สบอารมณ์ เดิมทีคิดว่าโครงนี้จะเอาชนะผู้หญิงคนนี้ได้เลยราบคาบ แต่ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะเป็นตัวตลกซะเอง!

ไม่เพียงแค่เขา การแข่งขันของเหล่าสิบสองปิ่นหิรัญย์และเหล่าผู้เล่าเรียน ผู้เล่าเรียนต่างก็แพ้กันหมดอย่างราบคาบ

มีเหล่าผู้เล่าเรียนหลายคนที่อยากจะลองเข้าร่วมการแข่งขันด้วย แต่สุดท้ายก็ถูกสิบสองปิ่นหิรัญย์เอาคืนจนชนะไปอย่างราบคาบ ถูกทำลายความมั่นใจจนหมด

ไม่นานเรื่องที่ผู้ชายแพ้การแข่งขันต่อโครงขวัญคู่กับผู้หญิงก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วในอาณาจักรหลู่ เมื่อเหล่าผู้เล่าเรียนสถานศึกษาใหญ่อีกสามแห่งได้ยินเรื่องนี้แล้ว ต่างก็รีบมาที่สถานศึกษาไป๋ลู่ เพื่อกู้คืนความชนะของผู้ชาย

หนึ่งในผู้เล่าเรียนระดับหนึ่งในสำนักเป่ยไห่รีบท้าดวลก่อน คนที่แข่งกับเขาคือปิ่นหิรัญย์เสี่ยวเยว่

เขาพยายามอดกลั้นความโกรธแล้วกัดฟันพูดว่า “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ดูสิว่าเจ้าจะต่อโครงอย่างไร”

เสี่ยวเยว่พยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “ข้าขอต่อโครงว่าฟูหรงสาวย้าวหรุ่ยเฟิงฟาง” *มีความหมายว่า กลิ่นหอมของเกสรพุดตาน แปะเจียก

“ว่าอย่างไรนะ!”

ทุกคนต่างก็ตกตะลึงมาก ไม่คิดเลยว่าการต่อโครงของเสี่ยวเยว่จะรอบคอบ แต่เสียงยังกลมกลืนกันอีกด้วย!

ผู้เล่าเรียนเป๋ยไห่คิดไม่ถึงเลยว่าตนเองเป็นถึงระดับหนึ่งแต่กลับพ่ายแพ้ให้ผู้หญิงคนหนึ่ง! สีหน้าของเขาย่ำแย่อย่างมาก ใบหน้าตกตะลึงไปหมด

แต่เสี่ยวเยว่กลับมีท่าทีที่สบาย แถมยังประสานมือคารวะกับเขาอีกด้วย “ขอบใจ”

ผู้เล่าเรียนจากเป๋ยไห่เสียหน้าอย่างมาก เขาประสานมือคารวะแล้วเดินจากไปทันที เขาเดินทางออกจากสถานศึกษาไป๋ลู่ที่ทำให้เขาขายหน้าไปทันที

ไม่เพียงแค่เขา ผู้เล่าเรียนระดับหนึ่งจากสถานศึกษาอื่นๆเองก็พ่ายแพ้อย่างราบคาบ

จ้าวเหวินเซิงและซือหม่าจี๋ รวมถึงนักวิชาการผู้อาวุโสในสถานศึกษา ต่างก็อยู่บนอาคารเพื่อดูการแข่งขันของเหล่าผู้เล่าเรียนและสิบสองปิ่นหิรัญย์

จ้าวเหวินเซิงลูบเคราแล้วพูดว่า “พวกนางมีความรู้ความสามารถเพียงนั้น ต่อให้พวกข้าออกไปก็ใช่ว่าจะเอาชนะได้ง่ายๆ”

ซือหม่าจี๋เองก็เห็นด้วย “แม่นางทั้งสิบสองนี้มีความสามารถอย่างแท้จริง น้อยคนนักที่จะมี ช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์