ในสถานศึกษา
หลิวหรูซือเดินมาเบื้องหน้าของฉินเหยียนที่นั่งชมการแข่งขันอยู่ข้างๆ
ฉินเหยียนเผยรอยยิ้มที่ลับลมคมในออกมา แล้วยินดีว่า
“ยินดีด้วยคุณชาย จากพนันการแข่งขัน ข้าจะทำให้ความปรารถนาของผู้ที่ได้รับชัยชนะเป็นจริงหนึ่งอย่าง ว่ามาสิว่าเจ้าต้องการอะไร?”
ทุกคนต่างจับจ้องไปที่หลิวหรูซือ และอยากรู้ว่าเขาจะขออะไร และยิ่งไปกว่านั้นก็อยากรู้ว่าท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์เก้าดอกบัวจะสามารถทำให้ได้รึไม่
มีผู้ที่ศรัทธาอยู่หลายคนตะโกนว่า “ขอให้เขาถอนหมั้นซะ!”
“ขอให้ผู้ศักดิ์สิทธิ์เก้าดอกบัวถอนหมั้น ยืนหยัดที่จะไม่สู่ขอบุตรสาวตระกูลจ้าว!”
จ้าวเหวินเซิงที่มองดูอยู่ด้านบน เมื่อได้ยินเสียงเหล่านั้นก็โกรธอย่างมาก เขากัดฟันแล้วพูดว่า
“เจ้าพวกนี้ ยุ่งเรื่องคนอื่นไม่กลัวเรื่องบานปลาย!”
ซือหม่าจี๋กลั้นหัวเราะแล้วปลอบโยนว่า “อย่าใจร้อนได้สหายจ้าว เรารอดูกันต่อไปดีกว่า”
ท่ามกลางเสียงตะโกนของทุกคน หลิวหรูซือคุกเข่าลงแล้วประสานมือคารวะต่อฉินเหยียนว่า
“ข้าต้องการขอเป็นศิษย์ท่านขอรับ!”
ฉินเหยียนแสร้งทำเป็นสงสัยแล้วพูดว่า “เหตุใดจึงต้องขอเป็นศิษย์ข้า?”
หลิวหรูซือพูดอย่างจริงจังว่า “ท่านยืนหยัดเพื่อผู้หญิงทั้งใต้หล้า ทวงความยุติธรรมให้ มองผู้หญิงอย่างเทียม ความมีเมตตาและความใจกว้างของท่านควรค่าแก่การเอาเยี่ยงอย่าง ดังนั้นข้าจึงต้องการขอเป็นศิษย์ขอรับ!”
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็มึนงงกันไปหมด
“เขาบ้าไปแล้วรึ เหตุใดข้าจึงฟังไม่รู้ความเลย?”
“เป็นถึงลูกผู้ชาย กลับจะทวงความยุติธรรมให้ผู้หญิง เขาเสียสติไปแล้วรึไง!”
“โอกาสดีขนาดนี้ ไม่รีบโน้มน้าวให้ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์เก้าดอกบัวถอนหมั้น เอาแต่พูดจาเลอะเทอะไร้สาระอยู่ได้!”
เสียงวิจารณ์และโกรธเกรี้ยวดังขึ้นไม่หยุด หลิวหรูซือเองก็ไม่แสร้งทำอีกต่อไป ยืนขึ้นแล้วกวาดตามองพวกผู้ชายที่ต่อว่าตัวนาง แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า
“เจ้าพวกโง่เขลา แต่ละคนหยิ่งยโส แต่ตากลับไม่มีแวว โง่เขลาดักดาน!”
เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็ได้ถอดมวยผมที่ต่อหน้าทุกคน ผมสีดำเงางามของนางหล่นลงมาพาดไหล่ของนาง
“อะไรกัน!”
“นางเป็นผู้หญิงรึเนี่ย!”
เหล่าผู้เล่าเรียนและนักวิชาการถึงกับอึ้ง เบิกตากว้างอ้าปากค้างจนพูดอะไรไม่ออก มีนักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่หลายคนที่รู้สึกตกตะลึงอย่างมาก
แข่งขันกันมาตั้งหลายวันขนาดนี้ กว่าจะมีผู้ชายชนะได้คนหนึ่ง แต่กลับเป็นผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชาย นั่นทำให้พวกเขารับไม่ได้อย่างมาก
ว่าแล้วเขาก็หันไปมองซือหม่าจี๋ เขาเองก็อ้าปากค้าง และมีสีหน้าที่เหลือเชื่อเหมือนกัน
“ข้าจะไปรู้ว่าเป็นคนเดียวกันได้อย่างไรเล่า เป็นไปได้อย่างไร?”
ซือหม่าจี๋เองก็แทบจะเสียสติ ในตอนที่หลิวหรูซือเอาชนะสิบสองปิ่นหิรัญย์แล้ว เขาก็คิดว่าจะแนะนำต่อพระราชสักนึก อยากจะให้หลิวหรูซือเข้าไปในภายในของอาณาจักรหลู่ได้อย่างง่ายดาย แต่สุดท้ายกลับตกตะลึงอย่างมาก
แทนที่จะแปรพักตร์แต่กลับถูกเล่นงานซะเอง รู้สึกใบหน้าร้อนไปหมด
“สหายซือหม่า พูดสิ”
ในที่สุดซือหม่าจี๋ก็ได้สติ “ข้าเข้าใจแล้ว นี่คือแผนของอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน พวกเราติดกับแล้ว!”
สายตาของทั้งสองจับจ้องไปยังตรงกลางเวที ฉินเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ หลิวหรูซือคุกเข่าถวายน้ำชาขึ้น
“ท่านอาจารย์ เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ”
ฉินเหยียนรับน้ำชามาจิบหนึ่งคำ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า
“เจ้าได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ผู้หญิงทั้งใต้หล้า ข้าขอรับเจ้าเป็นศิษย์ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าขอให้เจ้าเป็นหญิงแกร่งที่เลื่องชื่อ ทำให้ทุกคนทั้งใต้หล้าได้เห็นสตรีผู้ไม่ยอมเป็นรองบุรุษ!”
“เจ้าค่ะ!”
ผู้หญิงทั้งหมดต่างพากันสรรเสริญยินดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...