องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 813

ริมฝั่งแม่น้ำ

เฉิงเซินยืนมองเถาซงจือนำเรือเครื่องแก้วหลายร้อยลำมุ่งหน้าไปทำการค้าที่อาณาจักรอู๋แล้วถอนหายใจ ทุกคนกำลังปฏิบัติหน้าที่เพื่อสร้างเมืองเซี่ยงไฮ้และยึดครองอาณาจักรหลู่และอาณาจักรอู๋ เขาเองก็จะมัวรอไม่ได้แล้ว และแล้วก็ได้มุ่งหน้ากลับไปที่จวนเจ้าเมืองเพื่อของานทำจากอ๋องเหยียน

เมื่อเดินเข้าไปในห้องโถงแล้วกำลังจะผลักประตูเข้าไปด้านในก็ได้ยินเสียงหอบอย่างเขินอายของหญิงสาวดังออกมาจากด้านใจเป็นระยะ

เฉิงเซินเข้าใจทันที เขาสีหน้าแดงก่ำแล้วรีบชักมือกลับทันที จากนั้นก็ถอยหลังไป เขากลัวว่าจะรบกวนความสนุกของอ๋องเหยียนจึงได้รออยู่ที่หน้าประตูอยู่ตลอด

เมื่อผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วท้องฟ้าก็มืดลง ปิ่นหิรัญย์เสี่ยวเยว่เดินมาส่งอาหารก็เห็นว่าเฉิงเซินอยู่หน้าประตู จึงได้ถามขึ้นอย่างสงสัยว่า

“เจ้ายืนอยู่ทำไม เหตุใดจึงไม่เข้าไปรึ?”

เฉิงเซินรีบห้ามนาง “อย่าเพิ่งเข้าไป!”

เสี่ยวเยว่พูดอย่างไม่เข้าใจว่า “เจ้าห้ามข้าทำไมกัน ถึงยามเสวยอาหารแล้ว ข้ามาเพื่อส่งสำรับให้นายท่าน”

เฉินเซิงพยายามห้ามว่า “เข้าไปไม่ได้! เจ้าเชื่อข้าเถิด บัดนี้นายท่านไม่พร้อมจะเสวย”

เสี่ยวเยว่มึนงงไปหมด อ๋องเหยียนรับสั่งให้นางมาเรียกยามถึงมื้อค่ำ แล้วเหตุใดจึงห้ามไม่ให้นางเข้าไป นางพูดอย่างสงสัยว่า “เหตุใดนายท่านจึงจะไม่พร้อม?”

เฉิงเซินพูดด้วยสีหน้าลำบากใจว่า “อย่าถามในสิ่งที่เจ้าไม่ควรรู้!”

ในระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกันก็ได้มีเสียงของอ๋องเหยียนดังขึ้น

“พวกเจ้ากำลังพูดอะไรกันอยู่รึ?”

เมื่อสิ้นเสียงแล้วประตูก็ถูกเปิดออก ฉินเหยียนเดินออกมาแล้วข้างกายยังมีหลิวเชียนเชียนที่สีหน้าอิ่มเอม

บัดนี้เสี่ยวเยว่เข้าใจทันที นางหน้าแดงแล้วรีบพูดอย่างขออภัยว่า

“โปรดอย่าถือสาเลยเพคะนายท่าน เป็นเพราะความผิดของหม่อมฉันเองเพคะ”

ฉินเหยียนไม่ได้สนใจ และพูดว่า “ไม่เป็นไร ถึงเวลาทานอาหารแล้วสินะ?”

เสี่ยวเยว่พยักหน้าเบาๆ “เพคะ”

ฉินเหยียนพูดว่า “งั้นก็ไปทานอาหารกันเถิด”

เขาเดินนำเข้าไปแล้วถามขึ้นว่า “เฉิงเซิง เจ้ามาคอยนานแล้วงั้นรึ?”

เฉิงเซิงประสานมือคารวะพูดว่า “ไม่นานมากพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมีเรื่องอยากจะขอหารือเสียหน่อยพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนพอเข้าใจเจตนาของเฉิงเซิงจึงได้พูดอย่างใจเย็นว่า “มาทานอาหารก่อนละกัน พูดคุยกันไปด้วย”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ทุกคนได้มาถึงโต๊ะอาหารแล้วนั่งลง หลิวเชียนเชียนคอยเทเหล้าและคีบอาหารให้กับฉินเหยียนอย่างใส่ใจ

เฉิงเซิงพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “โปรดท่านอ๋องช่วยชี้แนะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเยียนยิ้มอย่างมั่นใจแล้วคีบเนื้อเป็ดชิ้นหนึ่งทาน จากนั้นก็พูดว่า “ทานอาหารก่อน ไว้ทานอิ่มแล้วข้าจะอธิบายให้ฟัง”

เฉิงเซินสมปรารถนาแล้ว บัดนี้เขารู้สึกหิวขึ้นมาจริงๆแล้วจึงได้รีบตอบกลับว่า “พ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อกินดื่มจนอิ่มแล้วทุกคนก็รวมตัวกันอยู่ด้านใน ล้วนอยากจะมาขอความรู้วิชา เพราะตั้งแต่ติดตามอ๋องเหยียนมาก็รู้เพียงวิธีการล้มล้างอาณาจักร แต่กลับไม่รู้วิธีการสร้างอาณาจักรเลย ทุกคนจึงได้เงียบแล้วรอฟังคำสอนของอ๋องเหยียน

ฉินเหยียนเองก็ไม่มัวรอ เขาพูดเปิดประเด็นทันทีว่า

“วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างอาณาจักร คือการที่ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน สามารถเอารูปแบบของเซียนตูเป็นแบบอย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ หรือชาวเมืองธรรมดาล้วนส่งเสริมความเท่าเทียมกัน”

“พวกเจ้าเองก็รูปแบบการพัฒนาเซียนตู ตราบใดที่ทุกคนได้เรียนตำรา ได้มีอาหารทาน มีที่นาให้เพาะปลูก มีรายได้ทุกๆเดือน ชีวิตของชาวเมืองมีความหวัง ก็จะไม่มีความคิดที่บิดเบี้ยว”

“เพราะท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ผู้คนต้องการในชีวิตคือความเท่าเทียมกันและศักดิ์ศรี ตราบใดที่รักษาเท่าเทียมกันและศักดิ์ศรีไว้ ทุกคนก็จะอยู่เย็นเป็นสุข”

“แต่การพัฒนาของเซียนตูและเมืองเซี่ยงไฮ้นั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เซียนตูมีทัศนียภาพ แต่ภายในก็มั่นคงและแข็งแกร่งเช่นกัน แต่เมืองเซี่ยงไฮ้นั้นดูมีทัศนียภาพ แต่ความจริงแล้วมันเน่าแฟะไปหมดแล้ว”

“ในระหว่างทั้งสอง ด้านหนึ่งยิ่งพัฒนายิ่งรุ่งเรือง อีกด้านยิ่งพัฒนาก็ยิ่งฟุ่มเฟือย และมีลักษณะตัวอย่างเป็นเรื่องเล่าแบบโจมตีและแบบต้านรับ”

เมื่อเฉิงเซินได้ยินแล้วก็ค่อนข้างรู้แจ้ง แต่เมื่อครุ่นคิดอย่างละเอียดแล้วก็ถามสิ่งที่ไม่เข้าใจ

“นายท่านพ่ะย่ะค่ะ หากมีคนประสงค์ร้ายลับหลัง จะทำอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์