ฉินเหยียนไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มที่สวมชุดผ้าขาดลุ่ยคนนี้จะเป็นหัวหน้าผู้คุ้มกันขนส่งแห่งสำนักมังกรคุ้มครองความปลอดภัยที่เคยเลื่องชื่อในตอนนั้น
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในด้านการขนส่งนี้มีเพียงสำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยซุ่นเฟิงเท่านั้นที่รุ่งเรือง รวมทั้งยังได้รับการร่วมมือจากวิสาหกิจและสำนักเฉาด้วย มีสำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยหลายแห่งที่ต้องอดอยาก การที่สำนักมังกรคุ้มครองความปลอดภัยอดทนได้ถึงตอนนี้ไม่ง่ายเลย
ฉินเหยียนครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ความแค้นนี้ยากที่จะคิดจริงๆ หากข้าต้องการซื้อสำนักมังกรคุ้มครองความปลอดภัยของเจ้า ต้องใช้เงินเท่าไร?”
หลงเปียวจื่อไม่คิดว่าเฉียวเฟิงจะพูดเช่นนี้ เขาตั้งสติไม่ได้และพูดติดอ่างว่า
“คือ ท่านพูดว่าจะซื้อสำนักมังกรคุ้มครองความปลอดภัยของเรารึ? แต่เราก็ไม่เคยขายมาก่อนนี่”
ฉินเหยียนยือมือขึ้นอย่างน่าเกรงขาม กองทัพพยัคฆ์เสือดาวรีบเอาตั๋วเงินมาวางก้อนหนึ่ง
“ข้าจะเสนอราคาให้เจ้า”
ว่าแล้วก็นับแล้วนำตั๋วเงินสิบใบตบลงบนโต๊ะ “หนึ่งพันตำลึงพอรึไม่?”
แม้ว่าเมื่อครู่นี้หลงเปียวจื่อจะได้เห็นความบาตรใหญ่ของเฉียวเฟิงแล้ว แต่ลู่ถานถุ่ยสามสิบหกมีคนเสียชีวิตถึงได้เงินชดเชยมากเพียงนั้น สำนักมังกรคุ้มครองความปลอดภัยและสำนักเฉาไม่ได้มีความบาดหมางอะไรกันเป็นเรื่องเป็นราว จะกล้ารับเงินของเขามาเลยได้อย่างไรกัน จึงได้พูดอย่างลังเลว่า
“คือ......”
สหายสำนักมังกรคุ้มครองความปลอดภัยที่อยู่ข้างๆใช้แขนสกัดเขาแล้วพูดโน้มน้าวเบาๆว่า
“ท่านหัวหน้า ยอมตกลงเถิดขอรับ เรานำตั๋วเงินหนึ่งพันนี้ไปใช้หนี้แล้วยังเหลืออีกไม่น้อยเลยนะ!”
หลงเปียวจื่อขมวดคิ้ว เขารู้สึกลังเลอย่างมาก สำนักมังกรคุ้มครองความปลอดภัยคือน้ำพักน้ำแรงของบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่นของพวกเขาเชียวนพ แม้ตอนนี้จะไม่ได้ดีอะไร แต่หากไม่มีสำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยแล้ว พวกเขาจะไปทำอะไรกันอีกละ?
เมื่อเห็นว่าเขายังลังเลอยู่ ฉินเหยียนก็นับตั๋วเงินอีกสิบใบแล้วตบลงโต๊ะ “พอรึไม่?”
หลงเปียวจื่อตกตะลึงจนเบิกตากว้าง เขารีบพูดว่า
“รอเดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ขอให้พวกข้าได้หารือกันเสียก่อน หากขายสำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยแล้ว พวกข้าก็ต้องหาที่อยู่กันอีก”
“ง่ายมาก”
ฉินเหยียนนับตั๋วเงินอีกสามสิบใบออกมาแล้วตบลงบนโต๊ะอย่างน่าเกรงขาม
“ทั้งหมดนี้มีห้าพันตำลึง ข้าซื้อสำนักมังกรคุ้มครองความปลอดภัย ต่อไปพวกเจ้าก็มาอยู่ในสำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยซุ่นเฟิงเป็นอย่างไร?”
เมื่อหลงเปียวจื่อได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงอย่างมาก อย่างไรสำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยซุ่นเฟิงก็เป็นผู้นำในกิจการนี้ ปกติอยากจะประจบประแจงพวกเขายังไม่มีสิทธิ์เลย
เมื่อครู่นี้ยังกังวลว่าหากขายสำนักมังกรคุ้มครองความปลอดภัยแล้วไม่มีที่ไปจริงๆ ก็จะไปทำงานที่สำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยซุ่นเฟิง แต่ใครจะคิดว่าจะมีเรื่องราวดีๆเช่นนี้ด้วย
เขาดึงสติกลับมาได้แล้วถามอย่างสงสัยว่า “หากได้ไปทำงานที่สำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยซุ่นเฟิงก็เป็นเรื่องที่ดี แต่รับซื้อคืออย่างไรรึขอรับ?”
ฉินเหยียนชี้ไปยังตั๋วเงินบนโต๊ะ
“ก็คือพวกเจ้านำห้าพันตำลึงไป ถือว่าเป็นเงินที่ข้าซื้อสำนักงานคุ้มกันความปลอดภัยของพวกเจ้า ต่อไปพวกเจ้าก็จะเป็นคนที่ทำงานในสำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยซุ่นเฟิงแล้ว ยินดีรึไม่?”
เมื่อหลงเปียวจื่อได้ยินว่าทั้งจะได้เงินและได้ไปทำงานที่สำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยซุ่นเฟิงด้วย เป็นเรื่องดีๆทั้งสองเลย จึงได้รีบพูดว่า
“อย่างไรรึเจ้า เพราะอาวุธลับของพวกเจ้าสำนักถังสู้ของพวกข้าไม่ได้จึงชิงฟ้องก่อนงั้นรึ?”
เมื่อได้ยินว่าหลี่เสี่ยวเตากำลังใส่ร้ายเขา ถังปาก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที เขาตั้งท่าพายุเข็มดอกสาลี่
หลี่เสียวเตาเองก็ไม่ยอม เขากำหมัดแน่น ทันใดนั้นมีดหลิวเย่ก็ปรากฏในระหว่างนิ้วของเขา
ทันใดนั้นก็มีจิตสังหารแผ่ออกมาล้นหลาม
ฉินเหยียนเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปตรงกลางแล้วห้าม เขาพูดว่า “หยุดก่อน ใจเย็นๆเสียก่อน มีอะไรค่อยพูดค่อยจากัน จะเอาแต่ลงไม้ลงมือกันได้อย่างไรกัน”
“เช่นนี้แล้วกัน ข้าจะเสนอพวกเจ้าทั้งสอง เราต่างเป็นจอมยุทธเหมือนกัน ดังสุภาษิตที่ว่าคนตายเพราะทรัพย์ นกตายเพราะอาหาร พวกเจ้าทั้งสองบอกราคาข้ามา ข้าจะออกเงินให้เอง จากนั้นก็ลบล้างความแค้นนี้ทิ้งไปเสีย”
หลี่เสี่ยวเตาปฏิเสธทันทีว่า “ปัญหาไม่ใช่เงิน!”
ฉินเหยียนไม่พูดมากความ เขาได้เสนอห้าพันตำลึงแล้วยื่นให้เขา “เห็นแก่ข้าเถิด”
หลี่เสี่ยวเตาเห็นเงินก้อนหนึ่งแล้วตาเป็นประกายทันที แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องเงินจริงๆ!”
ฉินเหยียนพูดอย่างเผด็จการว่า “ห้าพันตำลึง และมีตำแหน่งฐานะหัวหน้าแห่งสำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยซุ่นเฟิงด้วย คิดว่าอย่างไร?”
เมื่อหลี่เสี่ยวเตาได้ยินเรื่องดีๆเช่นนี้ก็ไม่แสร้งทำอีกแล้ว เขารีบตั๋วเงินมาแล้วยัดเก็บเข้ากระเป๋า จากนั้นก็พูดยิ้มแย้มว่า
“ในเมื่อผู้นำเฉียวเอ่ยปากเอง แล้วข้าจะปฏิเสธได้อย่างไรกัน เอาเช่นนี้เลยแล้วกัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...