เมื่อได้ยินที่ฟางถังจิ้งอธิบาย ฮ่องเต้หลู่รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก
ยุทธภพนี้เป็นอิสระจากกฎหมายมาโดยตลอด ใช้ระบบการจัดการของยุทธภพเองทั้งหมด ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของทางราชสำนัก
แม้ว่าบางสำนักมีอำนาจ บางสำนักอาจจะไม่ลงมือทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อราชสำนัก แต่กลับเป็นภัยต่อประชาชนมาโดยตลอด และเป็นอันตรายต่อความเป็นอยู่ของประชาชน
บัดนี้เมื่อยุทธภพได้รวมเข้ากับราชสำนัก ไม่ได้หมายความมันช่วยขจัดความกังวลใจของฮ่องเต้ไปหรอกหรือ?
แม้ว่านักปราชญ์เก้าดอกบัวจะรับผิดชอบเรื่องของชาวอาณาจักรฉินเป็นหลัก แต่เรื่องนี้กลับจัดการได้อย่างดีงาม เพื่อทำสิ่งดีๆ ให้กับประชาชน
สีหน้าของฮ่องเต้หลู่ผ่อนคลายลง เขายังถามต่อ
“เช่นนั้นพวกคนในยุทธภพต้องยอมลดอิสระของตัวเองลง เหตุใดถึงยอมละทิ้งระบบเดิมและยอมรับกฎใหม่ในครั้งนี้เล่า?”
ฟางถังจิ้งกล่าวด้วยความเคารพ
“ท่านผู้นำพรรคกระยาจกทำตามคำแนะนำของท่านนักปราชญ์เก้าดอกบัว ใช้เงินเพื่อพิชิตคนในยุทธภพโดยสมบูรณ์”
ฮ่องเต้หลู่พูดอย่างจริงจัง
“ในเมื่อคนในยุทธภพต่างยอมจำนนต่อราชสำนัก และยอมเข้าร่วมการประชุม เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะยอมรวมเข้ากับอาณาจักรฉิน?”
ฟางถังจิ้งยกมือรายงานว่า
“ตามคำแนะนำของท่านนักปราชญ์เก้าดอกบัว พวกคนในยุทธภพส่วนใหญ่ไปที่อาณาจักรจ้าวและหัวถิง หากตามการสอบสวนแล้ว มีคนประมาณแปดพันคนเข้าร่วมกองทัพทหารม้าพยัคฆ์เสือดาว เกือบสองแสนคนยอมเข้าร่วมกับสำนักงานคุ้มกันสินค้าซุ่นเฟิง และเกือบแสนคนเข้าทำงานเป็นผู้ตรวจการศาลาว่าการ หากยึดตามคนที่กระจายไปยังสำนักต่างๆ แล้ว คาดว่าในอนาคตอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอาจจะมีคนมากกว่าล้านคนที่ยอมจำนนต่อราชสำนักพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อฮ่องเต้หลู่ได้ยินจำนวนคนที่มากเช่นนี้ เขาพลันรู้สึกเสียดาย คนในยุทธภพแต่ละคนมีทักษะพิเศษ หากนำพวกเขาให้มาทำงานกับเขาได้คงจะเป็นประโยชน์อย่างมาก หลังจากนี้เขาต้องกลัวพวกอาณาจักรฉินใช่หรือไม่!
น่าเสียดายที่มันสายเกินกว่าจะพูดอะไรได้ในตอนนี้
ในท้องพระโรงพูดคุยกันหลายเรื่องมากในเวลานี้
“การกระทำของท่านนักปราชญ์ ความจริงแล้วข้าเองก็ไม่ได้เข้าใจอะไรมาก เขาพยายามเอาชนะคนในยุทธภพเช่นนี้ ท้ายที่สุดแล้วเขาต้องการอะไรกันแน่?”
“เพื่อนำมาใช้ประโยน์หลังจากนี้ การต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจสูงสุดในจิ่วโจว คนในยุทธภพแต่ละคนมีทักษะเฉพาะตัว นี่ถือว่าเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ใช้ในการต่อสู้เลยก็ว่าได้”
“มีวิธีใดไหมที่ทำลายแผนการเอาชนะใจคนของชาวอาณาจักรฉินได้ ศัตรูแข็งแกร่ง พวกเราอ่อนแอ ทำให้ช่องว่างระหว่างอาณาจักรหลู่และอาณาจักรฉินมีมากขึ้นเรื่อยๆ มีอันตรายอยู่ทุกหนแห่ง ข้ารู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย”
ฟางถังจิ้งเห็นว่าทุกคนเริ่มระแวงไร้สาระกันมากขึ้น เขาจึงรีบอธิบายว่า
“ฝ่าบาท ใต้เท้าทุกท่าน เมื่อครู่ข้าอาจจะยังไม่ได้ชี้แจงให้ทุกท่านเข้าใจจนกระจ่าง”
ทุกคนต่างใจเย็นลง มองไปที่ฟางถังจิ้งเพื่อรอเขาพูดต่อ
“ความริงแล้วเป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ ความหมายของท่านนักปราชญ์เก้าดอกบัวคือ คนในยุทธภพสามารถเข้าทำงานได้ กล่าวคือ นอกจากจะย้ายไปยังอาณาจักรฉินแล้ว ยังสามารถไปยังอาณาจักรจ้าว อาณาจักรหลู่ อาณาจักรเยี่ยน อาณาจักรสู่ อาณาจักรเยว่ เป็นต้นพ่ะย่ะค่ะ”
“กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ คนในยุทธภพสามารถเลือกอาณาจักรที่อยากเข้าร่วมทำงานได้อย่างอิสระ ไม่ได้หมายความว่าต้องเข้าร่วมทำงานกับอาณาจักรฉินเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
“นี่...”
ทุกคนต่างอึ้งจนอ้าปากค้าง สายตาเต็มไปด้วยความเชื่อ
“เป็นไปไม่ได้?”
“หมากรุกกระดานใหญ่เช่นนี้ ไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ของตัวเองเลย ท้ายที่สุดแล้วเขาทำแทนทุกอาณาจักรในจิ่วโจวถึงขนาดนี้ เขาต้องการอะไรกันแน่?”
ทั้งท้องพระโรงมีสีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย รวมถึงฮ่องเต้หลู่ด้วย
ประโยคนี้ทุกคนต่างเข้าใจความหมายดี ท่านผู้อาวุโสตำหนิพวกเขาว่าคิดแต่ในแง่ร้าย อีกทั้งยังมองเรื่องนี้ไม่ออก
“ประโยคที่สองท่านว่าอย่างไร?”
“เรื่องทุกเรื่องอย่ามองเพียงแค่ผิวเผิน ต้องมองนอกกรอบ มองให้ลึกลงไป เพื่อที่จะได้เห็นความจริงที่มากกว่านั้น”
เหตุผลนี้ทุกคนต่างรู้ดี แต่ใครในอาณาจักรนี้จะเป็นเหมือนเขากัน เขาเป็นถึงนักปราชญ์ แต่กลับพูดจาคลุมเครือ พวกเขาเป็นขุนนางราชสำนักแม้ว่าจะควักสมองออกมา พวกเขาก็ไม่อาจเข้าใจได้
“ประโยคสุดท้ายล่ะ?”
คนส่งสารลังเลครู่หนึ่งและพูดว่า
“ท่านผู้อาวุโสหัวเราะแล้วพูดว่า ข้าไม่เก่งเท่าเขา เขาเป็นคนภักดี ทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง เป็นนักปราชญ์แสวงหาทางที่ยิ่งใหญ่ เมื่อเขาร่ำรวยเขาสามารถช่วยทางโลกได้ ข้าไม่เก่งเท่าเขา ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาสามารถทำให้ดอกบัวทั้งเก้าบานได้ ผู้อาวุโสเช่นข้า... ยอมรับเขาแล้ว!”
“อะไรนะ? ท่านผู้อาวุโสพูดเช่นนี้จริงหรือ?”
แม้ทุกคนจะรู้ดีว่าเฉิงอาหนิวสามารถทำให้ดอกบัวทั้งเก้าบานได้ แน่นอนว่าเขามีความสามารถมากกว่าท่านผู้อาวุโสอยู่แล้ว เพียงแค่ทุกคนไม่เต็มใจยอมรับ แม้แต่ท่านผู้อาวุโสยังไม่เต็มใจยอมรับ
วันนี้ท่านผู้อาวุโสยอมรับแล้ว อีกทั้งยังบอกให้ทุกคนได้ยินด้วยหูตัวเอง
นักปราชญ์เปลี่ยนแปลงโลกนี้?
ท่านผู้อาวุโสเป็นนักปราชญ์ด้านวรรณกรรมที่เปลี่ยนอาณาจักรหลู่ได้เพียงลำพัง
แต่ท่านนักปราชญ์เก้าดอกบัวต้องการเปลี่ยนทั้งจิ่วโจวด้วยตัวเขาเองอย่างนั้นหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...