นอกเมืองเยี่ยนจิง ณ ด้านในค่ายของอาณาจักรฉิน
เมื่อฉินเหยียนนั่งลงแล้ว ฉินชงก็ได้เทน้ำชาให้เขาเองกับมือ
“ไม่ใช่ชาที่ดีมากนัก ออกศึกทำสงครามล้วนมีจำกัด เจ้าดื่มให้ชุ่มคอก่อน”
ฉินเหยียนยกชาขึ้นจิบแล้วพูดว่า “มีให้ดื่มก็ไม่เลวแล้ว!”
ฉินชงเองก็จิบชา จากนั้นก็พูดเข้าประเด็นว่า “ช่วงหลายปีมานี้ที่เจ้าไม่อยู่ สถานการณ์ของเก้าแคว้นเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก”
โชคดีที่ฉินเหยียนได้พบกับคนของตำหนักอ๋องเหยียนที่ทางดินแดนตะวันตก ไม่เช่นนั้นตอนนี้เขาก็ไม่รู้เลยว่าช่วงที่เขาไม่อยู่ ทั้งเก้าแคว้นเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง จึงได้พูดอย่างครุ่นคิดว่า
“ตอนที่ข้าอยู่ดินแดนทางตะวันตกก็เคยได้ยินเรื่องราวสถานการณ์ของเก้าแคว้น บัดนี้มีเพียงอาณาจักรเยี่ยนี่ไม่ใช่ของอาณาจักรฉิน”
ฉินชงพยักหน้าแล้วพูดต่อว่า “ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้อาณาจักรเยี่ยนได้ส่งกองกำลังโจมตีอาณาจักรจ้าว แม่ทัพสือได้นำทัพไปต่อต้าน ทำให้อาณาจักรเยี่ยนไม่ได้อะไรไปเลย”
“เดิมทีข้าคิดจะใช้โอกาสนี้นำทัพ อย่างไรด้วยฝีมือของทหารอาณาจักรฉิน หากจะสู้กับทหารของอาณาจักรเยี่ยนก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ สามารถล้างบางกองทัพอาณาจักรเยี่ยนได้ง่ายๆ ก็จะสามารถรวมทั้งใต้หล้าเป็นหนึ่งเดียวกันได้แล้ว”
“แต่เมื่อนึกถึงที่เจ้ากล่าวเอาไว้ว่า เพียงแค่เกิดการต่อสู้ก็ต้องมีผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บเสียหาย ชาวเมืองนั้นบริสุทธิ์ ควรจะไม่รบแต่สยบทหารของข้าศึก ข้าจึงได้ล้มเลิกความคิดนั้นไป”
“ต่อมาพระสนมฉีได้ส่งข่าวของเจ้ามาให้ ให้ข้านำกองทัพล้อมอาณาจักรเยี่ยนเพื่อช่วยอาณาจักรจ้าว ข้าจึงได้นำกองกำลังหลายล้านนายออกมา แม้จะแค่ล้อมเมือง แต่ก็ทำให้กองทัพรถยนต์ของเราได้แสดงความน่าเกรงขามอย่างมาก”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ฉินชงก็ได้ใจอย่างมาก น้ำเสียงของเขามีความภูมิใจ
ที่จริงฉินเหยียนเองก็ไม่คิดว่าช่วงหลายปีที่เขาไม่อยู่ อาณาจักรฉินจะสามารถสร้างรถยนต์ออกได้จำนวนมากขนาดนี้ จึงได้พูดอย่างดีใจว่า
“การล้อมเมืองครั้งนี้เพราะมีท่านพี่ฝึกฝนทหารรถยนต์เหล่านี้แท้ๆ!”
ฉินชงพูดอย่างจริงจังว่า “การทำให้อาณาจักรเยี่ยนเป็นของอาณาจักรฉินต่างหากที่เป็นเรื่องหลัก บัดนี้ทหารและชาวเมืองที่เมืองอื่นในอาณาจักรเยี่ยนยอมจำนนต่ออาณาจักรฉินแล้ว มีเพียงเยี่ยนจิงที่กัวฮวายอยู่เท่านั้น ฝืนยืนหยัดอยู่มาหนึ่งเดือนแล้ว”
“ไม่รู้ว่ามีชาวเมืองจำนวนเท่าไรที่ต้องหิวตาย ชาวเมืองที่ทนต่อไปไม่ไหวอยากจะจำนนต่ออาณาจักรฉินก็ถูกสังหารจนหมด แถมยังตัดศีรษะของชาวเมืองอย่างโหดเหี้ยมแล้วแขวนที่กำแพงเมืองด้วย เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ไม่ว่าข้าจะบอกกล่าวเช่นไร ทหารอาณาจักรเยี่ยนก็ไม่ยอมจำนน ข้าเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว”
ในระหว่างทางที่กลับมาฉินเหยียนเองก็คาดสถานการณ์เช่นนี้ไว้แล้ว กัวฮวายเป็นแม่ทัพ การนำทัพต่อสู้ไม่มีความคิดที่จะยอมแพ้ เป็นสันดานของเขาแล้ว หากสามารถโน้มน้าวเขาได้ง่ายๆสิแปลก
ฉินเหยียนปลอบใจว่า “พี่ใหญ่อย่าร้อนใจไปเลย ในเมื่อข้ามาถึงแล้ว สงครามระหว่างอาณาจักรฉินและอาณาจักรเยี่ยนจะต้องมีบทสรุปแน่นอน”
“รายงานพ่ะย่ะค่ะ!”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดอยู่ ทหารรถยนต์ก็ได้เข้ามารายงานว่า
“ท่านอ๋องทั้งสองพ่ะย่ะค่ะ กัวฮวายแห่งอาณาจักรเยี่ยนได้ปรากฏตัวที่กำแพงเมืองแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินชงสีหน้าดีใจ เขารู้สึกดีใจมาก
“กัวฮวายเป็นเต่าในกระดองมาตั้งนาน ในที่สุดวันนี้ก็ปรากฏตัวแล้ว มือปืนเตรียมประจำการยิงทันที!”
ฉินเหยียนรีบพูดแทรกว่า “รอเดี๋ยวท่านพี่ เมื่อครู่นี้ท่านว่าอย่างไรนะ มือปืนรึ หรือว่าได้สร้างปืนไรเฟิลขึ้นมาได้แล้ว?”
ฉินเหยียนอธิบายการใช้ปืนไรเฟิลให้คร่าวๆ เซี่ยชิงก็เข้าใจทันที
ฉินชงมองท่าทางที่เซี่ยชิงถือปืนเล็งแล้วพูดว่า “เรียนรู้เร็วเพียงนี้เชียวรึ!”
เซี่ยชิงยิ้มอย่างมั่นใจ “ก่อนหน้านี้ที่อ๋องเหยียนอธิบายเกี่ยวกับปืนไรเฟิลให้ฟัง ก็ได้สอนแล้วว่าใช้อย่างไร แม้ตอนนั้นจะยังไม่เคยเห็นปืนไรเฟิล แต่หม่อมฉันก็จดจำการยิงได้อย่างดีเพคะ!”
ฉินเหยียนมองเซี่ยชิงอย่างจริงจัง “ปืนนี้มอบให้เจ้า ความปลอดภัยของข้าเองก็มอบให้เจ้า”
เซี่ยชิงตบหน้าอกแล้วพูดรับรองว่า “ท่านอ๋องวางใจเถิดเพคะ ไม่ว่าใครที่ทำร้ายท่านได้เพียงน้อยนิด เซี่ยชิงจะขอโกนผมเพื่อไถ่โทษเลยเพคะ!”
ฉินเหยียนเบ้ปากแล้วพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องพูดให้เป็นเรื่องใหญ่เพียงนั้นหรอก ข้าเชื่อในทักษะของเจ้า อย่ามัวชักช้า ไปเจรจากันดีกว่า!”
“รอเดี๋ยว!” ฉินชงรีบห้ามทันที “กว่ากัวฮวายจะยอมปรากฏตัว เหตุใดจึงไม่ยิงสังหารเขาเลยเล่า?”
ฉินเหยียนครุ่นคิดแล้วพูดว่า “สวรรค์จะไม่ตัดหนทางคนเราขาด ต่อให้เขาจะสมควรตาย ก็ต้องไว้หน้าเขาหน่อย หากเขายังไม่รู้จักแก้ตัว ค่อยยิงให้ตายก็ยังไม่สาย!”
“แต่ข้าก็ยังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเจ้า”
ฉินเหยียนตบบ่าของฉินชง “วางใจเถิดพี่ใหญ่ คนที่จะสังหารข้าได้ยังไม่เกิดเลย”
ฉินเหยียนถือไม้เท้าไม้ไผ่เอาไว้แล้วเดินไปยังกำแพงเมืองอาณาจักรเยี่ยน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...