“ข้าจงใจผลักเอง” ฉู่เชียนหลีพูดต่อว่า “ข้าริษยาที่น้องเซียวเป็นที่รัก ไม่ใช่แค่ผลักนาง ยังอยากจะทุบตีนางด้วย เพราะรักกลายเป็นแค้น ไม่ว่าเรื่องใดก็ทำออกมาได้ทั้งสิ้น”
เซียวจือฮว่าได้ยินคำก็หัวเราะเย็นอยู่ในใจ
แต่ไรมาท่านอ๋องก็รังเกียจสตรีขี้อิจฉาใจคับแคบเป็นที่สุด นี่เจ้ากลับโง่พูดออกมา เตรียมตัวถูกหย่าเสียเถิด ตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉินจะต้องเป็นของนางในไม่ช้าก็เร็ว
เฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้วกระบี่ของตน
นางอยากจะไปให้พ้นจากจวนอ๋องเฉินจนแทบทนไม่ไหวถึงเพียงนี้เชียวหรือ แต่เขาจะไม่ให้นางได้สมหวังเสียอย่าง
“ในเมื่อรู้ผิดแล้ว ยังไม่รีบ…”
หย่ากับนางเสีย?
“ขอบคุณท่านอ๋อง!” ฉู่เชียนหลีดีใจจนเผลอหลุดปาก
เฟิงเย่เสวียนมองนางคราวหนึ่งด้วยปรายสายตายะเยือก“ยังไม่รีบไปคุกเข่าสำนึกผิดที่เรือนหานเฟิงอีก? คุกเข่าจนกว่าจือฮว่าจะยกโทษให้เจ้า”
ฉู่เชียนหลี “?”
เซียวจือฮว่าชะงักอยู่น้อยๆ เปลี่ยนจากหย่ามาเป็นคุกเข่าเช่นนั้นรึ?
ช่างเถิด
อีกสักครู่ ดวงตะวันก็จะออกมาแล้ว ความร้อนในฤดูร้อนรุนแรงหนักหนา หากฉู่เชียนหลีต้องคุกเข่าอยู่กลางตะวันแผดเผาสักสี่ห้าชั่วยาม ต่อให้ไม่ตายก็ต้องเกือบตาย
ฉู่เชียนหลีจ้องชายหนุ่มเขม็งคราวหนึ่ง
ก่อนนี้อยากจะถีบหัวนางส่ง หย่าขาดจากนาง รังเกียจนาง เหตุใดคราวนี้จึงไม่หย่านางเสียแล้ว?
ไอ้ผู้ชายบ้า!
ฮึ!
นางหยิบซาลาเปาไปสองลูก และเดินอาดๆ ออกไปแบบไม่แม้แต่จะมองทั้งสอง
บ้าจริง!
แดดแรงชะมัด!
เฟิงเย่เสวียนหลุบตาลงมองหญิงสาวในอ้อมอก เซียวจือฮว่าลดสายตาลง กุมตรงหัวใจอย่างโรยแรงราวกับไม่เห็นสิ่งใดทั้งสิ้น
ก่อนนี้จือฮว่ามักแก้ต่างให้ฉู่เชียนหลีและแบกความผิดทั้งหมดไว้กับตน แต่คราวนี้เขาจงใจบอกว่า 'คุกเข่าไปจนกว่าจือฮว่าจะให้อภัย' ข้างนอกแดดแรงถึงเพียงนี้ หากคุกเข่านานๆ จะต้องเป็นลมแดด แต่เหตุใดจือฮว่าจึงไม่เป็นห่วงฉู่เชียนหลีเสียแล้ว?
เขาจดจ้องใบหน้าแสนอ่อนโยนของหญิงสาว หากแววตาของเขากลับมีความสับสนอยู่รำไร...
ณ เรือนหานเฟิง
เรือนหลักแห่งจวนอ๋อง
หลังจากไปส่งเซียวจือฮว่าแล้ว เฟิงเย่เสวียนก็กลับมาทำงาน เมื่อก้าวเข้าประตูเรือนก็ได้เห็นร่างที่กำลังคุกเข่าโอนเอนไปมานั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ