ฮว๋าซื่อโกรธจนพูดอะไรไม่ออก
เฟิ่งชูอิ่งหันไปทางหลินชูเจิ้ง “ท่านลุง สาวใช้คนนี้ยกให้ท่านลุงกับท่านป้าจัดการตามที่เห็นสมควรเลยเจ้าค่ะ ข้าไม่คัดค้านอยู่แล้ว”
วันนี้หลินชูเจิ้งถูกขัดจังหวะความสุขและกำลังหงุดหงิดอย่างมาก จึงเอ่ยว่า “สาวใช้คนนี้ล่วงเกินเจ้านาย หมายจะสังหารฮูหยินเอกของจวน ลากตัวออกไปโบยจนตาย!”
บัดนี้ สติสัมปชัญญะบางส่วนของสาวใช้เริ่มกลับมาแล้ว ทว่านางกลับดูโง่งมเซื่องซึม ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร
นางหันไปอ้อนวอนฮว๋าซื่อ “ฮูหยิน ช่วยบ่าวด้วย!”
ฮว๋าซื่อได้ยินเช่นนั้นก็อยากจะบีบคอนางให้ตาย
คืนนี้ตอนที่สาวใช้นางหนีถือมีดทำครัวบุกเข้ามาในห้อง นางหวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ แล้วยังได้รับบาดเจ็บหนักด้วย
นังสารเลวนี่ยังมีหน้ามาร้องขอความเมตตาจากนางอีก!
นางกล่าวอย่างเดือดดาล “มัวนิ่งอยู่ทำไมล่ะ ยังไม่รีบลากนางออกไปโบยอีก!”
สาวใช้คนนั้นดิ้นขัดขืนสุดชีวิต อ้าปากพะงาบๆ คล้ายต้องการพูดบางอย่าง ทว่ากลับถูกบ่าวหญิงคนหนึ่งเอามือปิดปากแล้วลากตัวออกไป
ตอนที่นางถูกลากผ่านตัวเฟิ่งชูอิ่งไป เฟิ่งชูอิ่งก็หันไปส่งยิ้มที่ดูไม่คล้ายยิ้มให้นาง แล้วขยับปากแบบไม่ออกเสียง “บ่าวทรยศนายอย่างเจ้า ตายไปได้เสียก็ดี!”
พริบตานั้นเอง แววตาของสาวใช้คนนั้นก็ฉายความหวาดกลัวอย่างสุดชีวิต
เฟิ่งชูอิ่งคนที่อยู่ตรงหน้านางนี้แตกต่างจากสาวน้อยขี้ขลาดในอดีตอย่างสิ้นเชิง!
นางดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย ทว่านางจะขัดขืนสักแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี
ไม่นานนางก็ถูกลากตัวออกไปด้านนอก ถูกอุดปากและโบยจนตาย
นัยน์ตาของเฟิ่งชูอิ่งคมปลาบ นางไม่อาจสืบหาได้ว่าคนในจวนสกุลหลิน ในอดีตเคยรังแกร่างเดิมอย่างไรบ้าง
แต่ตอนนี้นางคือเฟิ่งชูอิ่ง ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนในจวนสกุลหลิน ก็อย่าหวังว่าจะรังแกนางได้อีก!
พวกเขาจับนางแต่งงานกับอ๋องฉู่ ใช้นางเป็นบันไดปีนขึ้นสู่ที่สูง แล้วยังคิดจะเอาชีวิตนางอีก ถ้างั้นนางก็จะเป็นฝ่ายเอาชีวิตของพวกเขาก่อน!
นางจะทำให้จวนสกุลหลินวุ่นวาย จนหาความสงบสุขไม่ได้อีกเลย
การตายของสาวใช้คนนั้นไม่ได้สร้างคลื่นลมอะไรขึ้นในจวนสกุลหลิน
พวกบ่าวรับใช้ในจวนก็แค่สงสัยว่านางเป็นอะไร ทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้ถือมีดบุกไปทำร้ายฮว๋าซื่อกับหลินหว่านถิง
หลังตัดสินโทษสาวใช้คนนั้น เฟิ่งชูอิ่งก็กลับไปเป็นเด็กสาวขี้ขลาดที่ว่านอนสอนง่ายเหมือนในอดีต ถือโคมไฟเดินกลับห้องเพียงลำพัง
ตอนที่นางเดินมาถึงประตูห้อง กลับเห็นว่ามีคนถือโคมไฟไปด้อมๆ มองๆ อยู่แถวเรือนหลังเก่าที่โดยไฟไหม้ของนาง
มุมปากของนางพลันยกสูง พวกบ่าวในจวนสกุลหลิน ก็โลภมากน่ารังเกียจไม่ต่างไปจากเจ้านายของพวกเขาเลย
ในเมื่อพวกเขาทำตัวร้ายกาจกับนางถึงเพียงนั้น นางจะกลั่นแกล้งพวกเขาคืนบ้างก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
ตอนที่นางผลักบานประตูเตรียมจะเข้าไปในห้อง หลินหว่านถิงก็กลับมาถึงเรือนที่พักเช่นกัน
วันนี้พวกนางทั้งสองคนได้แตกหักกันเรียบร้อยแล้ว หลินหว่านถิงจึงหันมาถลึงตาใส่นางทีหนึ่ง ทำท่าจะเปิดประตูเข้าห้องไป
เฟิ่งชูอิ่งจึงเอ่ยเรียกนางจากด้านหลัง “พี่สาว คนเราต้องรู้จักมีขอบเขตกันบ้าง วันหน้าจะได้มองหน้ากันติด
“หากท่านถลำลึกจนเกินไป มันจะเป็นการตัดทางรอดของตัวเองนะ”
หลินหว่านถิงได้ยินเช่นนั้นก็ปาโคมไฟในมือลงพื้นทันที โคมดวงนั้นจึงลุกไหม้ขึ้นมาในเสี้ยวพริบตา
นางจ้องเฟิ่งชูอิ่งแล้วกล่าว “อย่าคิดว่าได้แต่งงานกับท่านอ๋องฉู่ แล้วเจ้าจะได้ใช้ชีวิตสุขสบายไปหน่อยเลย?
“ข้าจะบอกอะไรให้ฟังนะ อีกเดี๋ยวเจ้าก็ต้องตายแล้ว!”
เฟิ่งชูอิ่งแสร้งเล่นตามน้ำ “ไอ้หยา ข้ากลัวจังเลย!”
หลินหว่านถิง “......”
นางกำมือแน่นจนเป็นหมัด คิดจะเข้าไปตบเฟิ่งชูอิ่งสักฉาด
ทว่าเฟิ่งชูอิ่งกลับหยิบมีดทำครัวออกมาจากไหนก็ไม่รู้ “บิดามารดาของข้าล้วนตายจาก ชีวิตอาภัพอับโชค
“หากวันใดข้าต้องตายขึ้นมา อย่างไรก็ต้องลากผู้อื่นไปด้วยสักสองสามคน เวลาลงไปปรโลกจะได้ไม่อ้างว้าง”
หลินหว่านถิงสบถว่า “อีบ้า” ก่อนจะพาสาวใช้เดินกลับเข้าห้องไปทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี