เมื่อได้ยินเทียนชิงพูดเช่นนี้ ซูจื่ออวี๋อดประหม่าขึ้นมาไม่ได้ นางเป็นห่วงอาจารย์ใหญ่ฉินเหลือเกิน ท่านคงไม่เหลวไหลไปตามพวกนั้น
ทว่าสิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจก็คือ อาจารย์ใหญ่ฉินกลับหัวเราะ
“ถูกต้อง ซูจื่ออวี๋คือศิษย์สายตรงของข้า ส่วนเรื่องที่ว่าเหตุใดนางจึงแต่งเป็นชายนั้น...”
อาจารย์ใหญ่ฉินลูบเครา ทำท่าครุ่นคิดแล้วพูดว่า
“เพราะท่านอ๋องฉินต้องการให้ซูจื่ออวี๋พักอยู่กับท่านที่เรือนจิงหลาน เรือนจิงหลานตั้งอยู่ในส่วนที่พักของนักเรียนชาย เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ดังนั้นข้าจึงอนุญาตให้นางสวมชุดบุรุษ เพื่อจะได้ร่วมอยู่อาศัยกับท่านอ๋องฉิน”
“เหลวไหล!” หยางอวิ๋นฉู่กล่าวอย่างโมโห “สถานศึกษาเป็นที่ร่ำเรียนของปราชญ์ จะให้หมองหม่นด้วยการอยู่อาศัยของหญิงชายได้อย่างไร”
อาจารย์ใหญ่ฉินลูบหนวดเคราอีกครั้ง พร้อมเอ่ยขึ้น
“เรื่องของความเป็นอยู่ เรื่องของหญิงชาย ล้วนเป็นการประสานของหยินหาง การรวมตัวของฟ้าดิน ท่านอ๋องฉินกับพระชายาอ๋องฉิน แต่งงานกันถูกต้องตามประเพณี ฝ่าบาททรงพระราชทานสมรส จะหมองหม่นได้อย่างไร? จะเหลวไหลได้อย่างไร? หากจะบอกว่าเหลวไหล เช่นนั้นท่านทำพิธีไว้อาลัยทั้งที่อยู่ในฐานะนักเรียน นี่ไม่เหลวไหลยิ่งกว่าหรือ? ท่านลบหลู่เบื้องสูง ด้อยค่าพิธีการ คิดแค่จะเอาชนะอย่างเดียว ซ้ำยังทำลายพิธีการต่างๆ ตกลงใครเหลวไหลกว่ากันหรือ?”
เมื่อประโยคนี้หลุดออกไป ทุกคนรีบส่งเสียงอย่างเห็นด้วย
“อาจารย์ใหญ่พูดถูกต้อง!”
“ใช่ ใช่ อาจารย์ใหญ่พูดถูกแล้ว!”
“ถูกต้อง ตัวเขากลายเป็นคนนอกรีตไปแล้ว ยังพูดใจให้ร้ายท่านอ๋องฉินอีก”
“ใช่นะสิ พระชายาเป็นถึงลูกศิษย์สายตรงของอาจารย์ใหญ่ หากว่ากันตามกฏของสำนักฝูอี่ สมควรจะมีที่พักส่วนตัวเป็นเอกเทศน์ ทว่าพระชายากลับไม่ทำให้เป็นเรื่องเอิกเริก พักรวมกันกับท่านอ๋อง ท่านสมถะถึงเพียงนี้ พวกเราควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง”
……
เมื่อได้ยินเสียงทุกคนที่เห็นด้วย ซูจื่ออวี๋รู้สึกละอายใจเล็กน้อย แม้นางจะไม่รู้ว่าเหตุใดอาจารย์ใหญ่ฉินอวี้ถึงได้พูดออกหน้าแทนนางกะทันหัน ทว่าเมื่อเห็นท่าทางนิ่งเฉยของจวินมู่เหนียน นางก็พอจะเดาบางอย่างได้
ดูท่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด จวินมู่เหนียนคงเดาได้แต่แรกแล้ว
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ชายที่สุขุมเจ้าแผนการคนนี้ นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย
ทว่าเมื่อเทียบกับความกระวนกระวายของซูจื่ออวี๋ หยางอวิ๋นฉู่กับเสวี่ยเฉิงอันยิ่งเหมือนมีก้างติดคออยู่
หยางอวิ๋นฉู่ยังอยากจะแก้ต่าง แต่ก็ไม่รู้จะไปหาหลักฐานมาจากไหน เพื่อมายืนยันว่าซูจื่ออวี๋ไม่ใช่นักเรียนของสำนักฝูอี่ เพราะแม้แต่ฉินอวี้ก็เอ่ยปากยอมรับด้วยตัวเองไปแล้ว หากเขายังราวีต่อไป ยิ่งดูเหมือนคนแพ้แล้วพาลไม่ใช่หรือ?
หยางอวิ๋นฉู่จึงทำเสียงฮึดฮัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...