………………..
เมื่อผู้อาวุโสอี้อวี่เห็นเด็กน้อยกระโจนตัวเข้าหาเช่นนี้
ทั้งร่างกายของเขาก็แข็งทื่อ ในตอนนั้นยังไม่รู้สึกตัวว่าเกิดอันใดขึ้น
หลังจากผ่านไปสักพัก
ประกายเพลิงสายหนึ่งก็ลุกโชนขึ้นมาในหัวใจของผู้อาวุโสอี้อวี่!
อ๊าก!
คาดไม่ถึงว่าถวนจื่อจะเข้ามากอดเขาเอง!
ผู้อาวุโสอี้อวี่รู้สึกมีความสุขอย่างมาก แล้วรีบโน้มตัวไปอุ้มถวนจื่อขึ้นมา
ในขณะเดียวกันนั้นเอง สายตาแห่งความตายก็จับจ้องมาที่เขาในทันที
ผู้อาวุโสอี้อวี่รู้สึกเสียวสันหลังวาบ!
โอ๊ย…เขาลืมไปได้อย่างใดว่าท่านประมุขยังยืนอยู่ด้านข้าง!
แม้ว่ายังไม่ได้หันกลับไปมอง แต่เขาก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าสายตาคู่นั้นเหมือนกับมีคมมีดที่แหลมคมจำนวนนับไม่ถ้วนปักที่กลางแผ่นหลังของเขาดัง “ฉึกๆ”!
ผู้อาวุโสอี้อวี่รู้สึกหนาวสั่นไปทั่วทั้งร่างกาย
หลังจากนั้นเขาก็กัดฟันกรอดและตัดสินใจเลือกที่จะ…เมินสายตานั้น!
ภายใต้แรงกดดันอันมหาศาล ผู้อาวุโสอี้อวี่ก็คงโน้มตัวลงไปอุ้มถวนจื่อขึ้นมา
“แค่ถวนจื่อบอกมา ท่านปู่ผู้อาวุโสที่ห้าจะต้องมาอยู่แล้ว! คิกๆ พวกเราไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน ถวนจื่อสวยขึ้นเป็นกองเลยนะ!”
ถวนจื่อหัวเราะขึ้นเสียงเบา
ไม่มีแม่นางคนไหนไม่ชอบคำพูดเหล่านี้
ต่อให้เป็นถวนจื่อก็ไม่มีข้อยกเว้น
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เหลือบสายตาไปมองอี้เจาที่อยู่ด้านข้างเล็กน้อย
“อี้อวี่”
อี้เจาพูดขึ้นมาแล้ว น้ำเสียงเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
“ถวนจื่อเป็นนายน้อยของเผ่า นี่มันจารีตประเพณีแบบใดกัน?”
ผู้อาวุโสอี้อวี่กัดฟันสู้ต่อไป จากนั้นก็เงยหน้ามองเขา
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาที่เหมือนจะฆ่าคนตายได้ของอี้เจา ผู้อาวุโสอี้อวี่กลับเผยรอยยิ้มกว้าง
“ประมุข พวกเราไม่ได้อยู่ในตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง ไม่จำเป็นต้องมากพิธีขนาดนั้นหรอกมั้ง? แล้วอีกอย่างถวนจื่อเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่น่าหวาดกลัวมา พวกเราควรจะปลอบโยนนางไม่ใช่หรือ? ดูสิ ท่านทำแบบนี้ทำให้ถวนจื่อตกใจหมดแล้ว”
อี้เจาเหลือบสายตาหันไปมองด้านข้าง และพบว่าดวงตากลมโตดั่งลูกองุ่นของถวนจื่อเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย และตอนนี้กำลังมองหน้าเขาอยู่ ริมฝีปากเล็กก็อ้าขึ้นเล็กน้อย
ดูจากท่าทางแล้ว เหมือนว่านางกำลังตกใจจริงๆ
อี้เจาขมวดคิ้วมุ่น เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้ว
เขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท…
ท้ายที่สุดแล้วถวนจื่อก็อายุยังน้อย การกระทำในครั้งนี้เกรงว่าจะทำให้เกิดปมภายในใจของถวนจื่อขึ้นมาได้
เขาควรจะพูดกับอี้อวี่เป็นการส่วนตัว…
แต่เมื่อเขาเห็นว่าผู้อาวุโสอี้อวี่อุ้มถวนจื่อเอาไว้ในอ้อมกอด เพลิงโกรธในใจของเขาก็ไม่สามารถระงับลงได้
ในตอนนั้นเขาไม่สามารถอดกลั้นได้ จึง…
เมื่อคิดถึงตรงนี้อี้เจาก็รู้สึกย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็หมุนตัวออกไป เขาไม่อยากให้ถวนจื่อมองเห็นใบหน้าอันดุร้ายของตนเองอีกแล้ว
แต่เพิ่งเดินออกไปครึ่งก้าว เขาก็ได้ยินเสียงถวนจื่อตะโกนเรียกเอาไว้
“ท่านปู่ประมุข!”
อี้เจาหันหน้ากลับไปมอง แต่กลับเห็นถวนจื่อเอียงคอแล้วถามขึ้นอย่างสงสัยว่า
“ท่านปู่ประมุข ถวนจื่อออกมาแล้ว ท่านไม่ดีใจหรือ?”
“อุ้ม!”
หัวใจของอี้เจาเหมือนมีอันใดบางอย่างกระแทกอย่างรุนแรง
ทันใดนั้นเองความอิจฉาริษยาที่มีอยู่ในใจก็มลายหายไปในทันที เหลือเพียงแต่ความยินดีที่ยากจะบรรยาย!
“เจ้า…”
ผู้อาวุโสอี้อวี่กะพริบปริบๆ
“ประมุข? ถวนจื่ออยากให้ท่านอุ้มน่ะ!”
ในที่สุดอี้เจาก็สามารถได้ยินประโยคนี้อย่างชัดเจน
เขาจึงรีบยื่นมือออกไปรับตัวถวนจื่อเอาไว้
ท่าทางระมัดระวังเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังดูแข็งทื่ออยู่หลายส่วน
ภายในแววตายังคงมีความสับสนอยู่เล็กน้อย
…ช่วยไม่ได้ ประมุขที่สูงส่งและยิ่งใหญ่ไม่เคยอุ้มเด็กน้อยขนาดนี้มาก่อน
ความนุ่มนิ่มโผเข้าสู่อ้อมกอด พร้อมกลิ่นหอมของน้ำนม
ถวนจื่อยื่นมือออกมาแล้วลูบที่หัวคิ้วของเขา
“ท่านปู่ประมุขอย่าเสียใจไปเลยนะ!”
มือเล็กๆ เต็มไปด้วยก้อนเนื้อของนางอบอุ่นเป็นอย่างมาก
อี้เจารู้สึกเหมือนกับว่ามือเล็กๆ ข้างนี้กำลังลูบเข้าที่หัวใจของเขาอย่างแผ่วเบาอยู่ ลบล้างอารมณ์เสียที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้จนหมดสิ้น
เขาอุ้มถวนจื่อไว้โดยที่ไม่กล้าขยับตัวซี้ซั้ว เพราะกลัวว่าถวนจื่อจะรู้สึกไม่สบายตัว
เมื่อได้ยินถวนจื่อพูดเช่นนั้น เขาจึงพยักหน้าติดต่อหลายครั้งอย่างอดไม่ได้
“มีความสุขสิ! ข้ามีความสุข!”
ถวนจื่อพูดอันใดก็ถูกต้องทุกอย่าง!
ผู้อาวุโสอี้อวี่กอดอก แล้วแค่นหัวเราะ
เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าท่านประมุขอยากจะใกล้ชิดสนิทสนมกับถวนจื่อ แต่ว่าตนเองเป็นคนที่เคร่งขรึมมากเกินไป และไม่สามารถทำอันใดแบบนั้นได้
ดังนั้นถวนจื่อจึงเป็นฝ่ายขอให้อุ้ม ซึ่งก็ถูกต้องที่สุดแล้ว
ผู้อาวุโสอี้อวี่รู้สึกหัวใจแตกสลายและเศร้าเสียใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...