บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง นิยาย บท 8

8 : เจ้าจะเอ่ยออกมาทำไม ขายหน้าชะมัด

ทันใดนั้นสายตานางมองไปเห็นบุรุษผู้หนึ่ง สายตาของเขาเหมือนจะมองมาทางนี้ จึงรีบทิ้งตัวลงมาจากต้นไม้ คนผู้นั้นสายตากว้างไกล เกรงว่าวรยุทธ์สูงส่งอยู่ไม่น้อย หน้าตาคุ้น ๆ แต่นางนึกไม่ออก ว่าเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน รีบเดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเองไป

ซ่งหลินต๋ารู้สึกเหมือนมีสายตา ของใครบางคนจ้องมองอยู่ ครั้นมองกลับไปก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ผู้ใดมาสอดส่องเรือนคุณชายของเขา

ก่อนฉุกคิดขึ้นมาได้ ที่ดินตรอกหนิงอัน เป็นของหยวนเหวินเซียวทั้งหมด ยกเว้นเรือนที่อยู่ด้านข้าง คงคิดมากไปเอง เรือนนั้นน่าจะมีเพียง เด็กและสตรีอาศัยอยู่

ภายในห้องนอนของหยวนเหวินเซียว ยามนี้เขามีผ้าสีขาวผูกปิดดวงตาเอาไว้ เนื่องจากได้รับพิษร้าย จนทำให้ดวงตาทั้งสองข้างบอดสนิท หม่าหลิงเฟยมารดาของเขา กำลังจัดแจงให้บุตรชายขึ้นนอนพักผ่อนบนเตียง

“เป็นเพราะข้าทำให้ท่านแม่ต้องพลอยลำบากไปด้วย”

เพราะดวงตามองไม่เห็น ทำให้คนในตระกูลนึกรังเกียจ อีกทั้งเขายังเป็นเพียงบุตรชายของฮูหยินรอง ซึ่งบิดาไม่ได้โปรดปรานแม้แต่น้อย

“ลำบากอันใดกัน ได้อยู่กับเจ้าข้าย่อมไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้ว” หม่าหลิงเฟยเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม นางไม่รู้สึกอาลัยอาวรณ์แม้แต่น้อย ขอเพียงได้อยู่ดูแลบุตรชายเป็นพอ

เมื่อคนในตระกูลหยวน แสดงออกอย่างชัดเจน ว่ารังเกียจบุตรชายตาบอดขาพิการของนาง และต้องการให้เขาย้ายออกมาจากตระกูลหยวน หม่าหลิงเฟยจึงยื่นคำขาด ขอให้สามีเขียนจดหมายปลดปล่อยภรรยา เพื่อที่จะได้ตามมาดูแลเขาที่นี่

“ท่านแม่ลูกอกตัญญูแล้ว”

“อย่าได้เอ่ยเช่นนั้น ตอนเจ้ายังดี ๆ อยู่ ทำงานให้คนพวกนั้นมีกินมีใช้กันตั้งเท่าไร ยามลำบากกลับขับไล่ไสส่ง ดีแค่ไหนที่เจ้ามีที่ทาง และร้านค้าบางส่วนเป็นของตนเอง ไม่เช่นนั้นคงถูกพวกเขายึดไปจนหมด”

นางเอ่ยด้วยความแค้นใจ เป็นเพราะตระกูลเดิมของนางตกต่ำ เลยทำให้บ้านสามีนึกรังเกียจ ยิ่งบุตรชายถูกลอบวางยาจนเป็นเช่นนี้ ยิ่งทำให้พวกเขาเผยตัวตนออกมาอย่างชัดเจน

“อย่าให้ข้ารู้นะว่าเป็นฝีมือของใคร” นางเข่นเขี้ยวด้วยความโกรธ

เรื่องนี้สะเทือนใจของหยวนเหวินเซียวเป็นอย่างมาก เมื่อสองปีก่อนเขาไปงานเลี้ยง ที่จวนเสนาบดีการคลังแทนผู้เป็นบิดา แต่กลับถูกวางยาในน้ำชาจนตาบอด ทำให้พลัดตกลงมาจากบันไดหิน จนขาพิการข้างหนึ่ง

เหตุการณ์วันนั้นไม่สามารถเอาผิดผู้ใดได้ ตระกูลหยวนไม่อยากมากความกับจวนเสนาบดี จึงยอมปล่อยให้เรื่องนี้ เงียบหายไปอย่างเงียบ ๆ

หยวนเหวินเซียวต้องทนทุกข์ทรมาน กับการมองไม่เห็น มารดาของเขาเฝ้าตามหาหมอ มารักษาอาการให้ ทว่าสองปีผ่านมานี้ หมอคนแล้วคนเล่า ก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าไร้หนทางรักษาแล้วจริง ๆ

“ท่านแม่กลับห้องไปเถอะขอรับ ข้าจะนอนพักเสียหน่อย”

“ได้ ๆ เจ้านอนเถอะเดินทางมาเหนื่อย ๆ ข้าก็จะเข้านอนแล้วเหมือนกัน” นางดึงผ้าห่มคลุมตัวให้บุตรชาย ก่อนเดินออกจากห้องนอนของเขาไป

วันต่อมาหม่าหลิงเฟยถือของขวัญกล่องหนึ่ง ไปทักทายเพื่อนบ้านที่อยู่เรือนด้านข้าง จึงได้ทำความรู้จักกับเฉาซูหลิ่ง

“ข้าพาลูกชายย้ายมาอยู่ที่เรือนด้านข้างนี้แบบถาวร ต่อไปพวกเราก็กลายเป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว นี่คือของขวัญที่ข้านำมาให้ โปรดฮูหยินรับไว้ด้วย” หม่าหลิงเฟยยื่นกล่องของขวัญ ไปตรงหน้าของนาง

“ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ” เฉาซูหลิ่งรับของขวัญมา แล้วส่งยื่นให้ป้าหลูนำไปเก็บ

“หม่าฮูหยินเดิมทีข้าแซ่เฉาเจ้าค่ะ”

เฉาซูหลิ่งไม่รู้จะแนะนำตัวเองอย่างไร ได้ข่าวว่าพวกเขามาจากตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ขณะที่ตัวนางนั้น แทบไม่อาจเอ่ยถึงฐานะของตนเองได้เลย

“เช่นนั้นต้องเรียกเฉาฮูหยินสินะ”

“เอ่อ เช่นนั้นก็ได้”

เฉาซูหลิ่งไม่กล้าบอก ว่าตอนเองเป็นเพียงอนุภรรยา ที่ถูกตระกูลหลี่ขับไล่ออกมาอยู่ที่นี่

“พวกท่านมาอยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว ข้ากับลูก ๆ อยู่ที่นี่มาห้าปี ค่อนข้างเงียบเหงามากเลยทีเดียว เสี่ยวหยวนท่านคงเคยเห็นแล้ว เมื่อวานเห็นมุดทางหมาลอด ไปเอาลูกบอลที่เรือนท่าน ข้าต้องขออภัยด้วย ที่สั่งสอนบุตรชายได้ไม่ดี”

“ไม่เป็นไร ๆ เขาน่ารักดี ว่าง ๆ ก็ให้ไปวิ่งเล่นที่เรือนของข้าได้ ข้าจะให้คนเตรียมขนมไว้เลี้ยงเขาเอง”

“เกรงใจท่านแล้วเจ้าค่ะ นั่นเหยาเอ๋อร์กลับมาแล้ว รีบมาทักทายกับหม่าฮูหยินเร็วเข้า”

หลี่เมิ่งเหยาเลิกคิ้วแปลกใจ หม่าฮูหยินที่ใดกันอีก พอเดินเข้าไปในห้องโถงกลับเห็นสตรีใบหน้างดงาม ท่าทางเหมือนคนเติบโตมาในตระกูลใหญ่โต ดูไปแล้วอายุคงมากกว่ามารดานางราวห้าหกปีเห็นจะได้

“นี่หลี่เมิ่งเหยาบุตรสาวคนโตของข้าเองเจ้าค่ะ เหยาเอ๋อร์หม่าฮูหยินเพิ่งย้ายมาอยู่ที่เรือนด้านข้างนี่เอง”

“เมิ่งเหยาคำนับหม่าฮูหยินเจ้าค่ะ” หลี่เมิ่งเหยาประสานมือย่อตัวลง

“หน้าตางดงามยิ่งนัก อายุเท่าใดแล้วรึ”

“สิบเจ็ดปีเจ้าค่ะ”

“โอ้” หม่าหลิงเฟยทำหน้าตกใจเล็กน้อย อายุเท่านี้เหตุใดยังไม่ออกเรือนอีก ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้

“ว่าแต่ท่านเป็นใครหรือเจ้าคะ”

หลี่เมิ่งเหยาเห็นมารดาไม่ยอมบอก ความเป็นมาของอีกฝ่าย จึงเอ่ยถามออกไปตรง ๆ

“เจ้าเด็กนี่ เสียมารยาทจริง ๆ” เฉาซูหลิ่งตำหนิบุตรสาวซึ่ง ๆ หน้า หันไปทางหม่าหลิงเฟย “ขายหน้าท่านแล้ว”

“ที่ไหนกันนางตรงไปตรงมาเช่นนี้ ข้าว่าดีออก ข้าชื่อหม่าหลิงเฟย เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่เรือนข้าง ๆ นี้เอง วันนี้เลยนำของขวัญมาทักทายเพื่อนบ้านเสียหน่อย”

หลี่เมิ่งเหยาพยักหน้าลงเบา ๆ “ท่านเป็นอะไรกับคุณชายสามเรือนนั้นหรือเจ้าคะ”

บทที่ 8 1

บทที่ 8 2

บทที่ 8 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง