ฤดูหนาวเดือนสิบสอง หิมะร่วงโรยปลิวพริ้ว
รถม้าคันหนึ่งวิ่งไปตามเส้นทางบนภูเขาที่ทุรกันดารอย่างช้าๆ
รถม้าที่ทั้งเก่าและทรุดโทรมไม่อาจต้านแรงลมหนาวได้ เย็นจนคล้ายกับจะแช่แข็งกระดูกคนได้
เจียงหวานหว่านฟื้นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิด นางไม่ได้ตายไปแล้วเหรอ
ทำไมถึงยังเจ็บมากขนาดนี้อีก
นางพยายามที่จะลืมตาขึ้น ในขณะที่กำลังสะลึมสะลืออยู่นั้นก็คล้ายกับได้เห็นหลิ่วซู่แม่ของนาง
"ท่านแม่..."
น้ำเสียงที่แหบพร่าแฝงไว้ด้วยความสั่นเครือ คล้ายกับกำลังยืนยันอะไรบางอย่าง
หลิ่วซู่คว้ามือนางไว้อย่างตื่นเต้นพร้อมกับพูดว่า "หวานหว่าน เยี่ยมไปเลย ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นสักที"
"ท่านแม่..."
เมื่อได้สัมผัสความรู้สึกห่วงใยอันแสนอบอุ่นจากแม่อีกครั้ง เจียงหวานหว่านก็รู้สึกอยากจะร้องไห้ จนน้ำตาเกือบจะไหลรินออกมา
หลิ่วซู่ตกใจ "หวานหว่านอย่าร้อง ใกล้จะถึงเมืองหลวงแล้ว เดี๋ยวเจ้าก็จะได้เจอพ่อกับพวกพี่ชายแล้วนะ"
เมื่อเจียงหวานหว่านใด้ยินที่นางพูด ก็นิ่งอึ้งไป "ไปเมืองหลวงหรือ"
แววตาของหลิ่วซู่หม่นแสงลงนิดหนึ่ง แล้วจึงถอนหายใจออกมา
เมื่อสิบกว่าปีก่อน สามีได้พาแม่สามีและลูกๆ ที่อายุยังน้อยห้าคนมาที่เมืองหลวงก่อน รับปากเอาไว้ว่าเมื่อตั้งตัวที่เมืองหลวงได้แล้วจะส่งคนมารับนาง
ใครจะรู้ว่าเมื่อพวกเขาจากไป ก็ไม่ส่งข่าวอะไรกลับมาอีกเลย
และเมื่อพวกเขาจากไปได้ประมาณหนึ่งเดือน นางก็ตรวจพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ได้ประมาณสองเดือนแล้ว
นางที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่สามารถจะเดินทางไกลมาเมืองหลวงเพื่อตามหาพวกเขาได้
ทำได้เพียงรอคอยให้เจียงป๋อเหนียนรีบส่งคนมารับนางอยู่ทุกวัน แต่ตลอดหลายปีมานี้ แม้แต่จดหมายฉบับเดียวนางก็ยังไม่เคยได้รับเลย
จนเมื่อไม่นานมานี้ มีเพื่อนกลับมาเยี่ยมบ้าน บอกว่าสามีของนางได้เป็นขุนนางใหญ่ในเมืองหลวงแล้ว
นางคล้ายกับว่าจะจับสังเกตอะไรได้บางอย่าง
แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้คิดอะไรมาก หวานหว่านก็มาป่วยเสียก่อน
ตำบลที่พวกนางอาศัยอยู่ค่อนข้างห่างไกล แถมหลายปีมานี้ก็แห้งแล้งอดอยาก
อย่าพูดถึงเงินทองเลย ขนาดอาหารที่จะกินให้อิ่มท้องก็ยังเหลือไม่มาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ