หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 453

เฉินผิงพาซูอวี่ฉีและคนอื่นๆกลับไปที่ เสิ่งเฉิงความคาดหวังที่เขาปรารถนาจะฝึกฝนให้พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นกำลังจะพัฒนาก้าวพ้นขั้นพื้นฐานแล้ว เขาจึงตื่นเต้นดีใจมากกับการพัฒนานี้

วันนี้เขาสามารถรับมือและเอาชนะเหล่าปรมาจารย์ได้ถึงสองสามคน ซึ่งเขาก็คงไม่อาจจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้ หากว่าเขายังไม่อาจก้าวผ่านการพัฒนาพลังขึ้นมาได้อีกขั้น และคงต้องใช้เวลานานมากกว่าจะทุ่มเทเอาชนะเจี่ยงเจิ้งจงได้

เฉินผิงสามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง

คุณเฉินเราควรจะส่งใครเข้าไปจับตาดูการเตรียมการที่ตำหนักโอสถหรือไม่คะ ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะยอมส่งมอบสมุนไพรมาให้โดยไม่ขัดขืน!” ชื่อเฟิ่งมาพบเฉินผิงเมื่อรู้ว่าเขากลับมาถึงแล้ว

เธอถึงกับตกตะลึงไปเมื่อได้ยินหลินเทียนหู่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ตำบลเทียนเฟิงให้ฟัง ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนสามารถเห็นได้ว่าพลังปราณของเฉินผิงพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วภายในวันเดียว!

นั่นไม่จำเป็นหรอก เพราะหากพวกเขาปฏิเสธที่จะส่งมอบให้เรา ฉันก็ยังมีเหตุผลมากพอที่จะเข้ายึดครองตำหนักโอสถทั้งหมดได้!” เฉินผิงตอบพร้อมกับยิ้มกริ่ม

หากเขาต้องการที่จะบรรลุไปสู่ขั้นที่สูงขึ้นกว่านี้ เขาก็ต้องใช้ยาสมุนไพรเพื่อปรับพลังปราณ ซึ่งเทียบยาสมุนไพรจากตำหนักโอสถจะช่วยเขาได้เป็นอย่างมาก แต่ปริมาณที่ได้มานั้นค่อนข้างจำกัด นั่งจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขามุ่งมั่นจะเข้าครอบครองตำหนักโอสถ เพื่อที่เขาจะได้รับอภิสิทธิ์ในการเข้าถึงสมุนไพรปรับพลังปราณเหล่านั้น

แต่สมุนไพรอายุนับร้อยปีเหล่านี้มีปริมาณจำกัด แล้วก็คงจะหมดสิ้นลงไดัในสักวัน ยิ่งเฉินผิงมีพลังเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ เขาก็ต้องยิ่งพึ่งพาพวกสมุนไพรเหล่านั้นมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องหาสิ่งอื่นมาไว้คอยทดแทนด้วย!

มันคงจะถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินทางไปที่เขาเหิงชาน เพื่อตามหาศิลาแห่งจิตวิญญาณ แล้วฉันก็จะสามารถฝึกพลังปราณของฉันได้ทันที โดยอาศัยศิลาเหล่านั้น!

เฉินผิงติดต่ออู่ตงและเล่าถึงแผนการที่จะเดินทางไปที่เขาเหิงชานให้เขาฟัง ฉันผิงรู้สึกโล่งใจขึ้นที่ซูอวี่ฉีมีจี้หยกที่สามารถปกป้องเธอได้ มันคงจะเป็นของวิเศษที่ทรงพลังมาก จึงสามารถปกป้องเธอไว้จากการจู่โจมของปรมาจารย์ถึงสองคน จนไม่สามารถแตะต้องเธอได้!

ตกกลางคืนในยามที่ทุกคนกำลังหลับไหล เมืองตำบลเทียนเฟิง ก็กลับกลายเป็นเมืองร้าง อันเนื่องมาจากเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้นในงานชุมนุมศิลปะการต่อสู้

ถึงกระนั้นก็ยังมีคนเห็นชายชราเคราขาว 4 คนที่สวมชุดคลุมสีดำกำลังเดินไปตามถนน พวกเขาสามารถก้าวผ่านถนนจากด้านหนึ่งไปจนสุดทางอีกด้านหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว แม้จะดูเหมือนว่าพวกเขาเคลื่อนไหวได้ช้ามากก็ตาม คนกลุ่มนี้มิใช่ใครอื่นแต่พวกเขาก็คือผู้อาวุโสทั้งสี่ จากหุบเขาซีหนานส๋วนเยว่นั่นเอง!

จากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังสนามประลองยุทธและเริ่มลงมือปฏิบัติหน้าที่ของตน ราวกับว่ากำลังสืบสวนบางอย่างอยู่ นอกจากการแกะรอยพวกรอยเท้าแล้ว พวกเขายังศึกษาหลุมรูปร่างเหมือนมนุษย์ที่เฉินผิงทำให้เกิดขึ้นตอนที่บุกเข้าไปในเวที

หนึ่งในผู้อาวุโสได้หยิบผ้าออกมาคลุมที่มือก่อนจ้าโกยเอาผงสีเงินขึ้นมาจากหลุม

ทันทีที่เขาโปรยผงนั้นขึ้นไปในอากาศ ก็ปรากฏร่างมนุษย์ที่เคลื่อนไหวได้ขึ้นในท้องฟ้า ภาพนั้นสมจริงมาก ราวกับตัวละครที่ปรากฏอยู่ในหนังสามมิตินั่นเลยทีเดียว

ภาพที่เคลื่อนไหวอยู่นั้นแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ระหว่างเฉินผิงกับเหล่าปรมาจารย์สองสามคนนั้น แต่ภาพเหล่านั้นก็อยู่ได้เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น แล้วเมืองตำบลเทียนเฟิง ก็จมดิ่งสู่ความมืดมิดอีกครั้ง

พวกท่านคิดยังไงกับเจ้าหนุ่มคนนั้น?” ท่านอาวุโสผู้โปรยผงนั่นขึ้นไปบนฟ้าเอ่ยถามขึ้น

หัวหน้าของเหล่าผู้อาวุโสกล่าวว่า จากภาพที่เห็นข้าก็ไม่สามารถจะบอกอะไรได้มากนัก การที่จะสามารถเอาชนะปรมาจารย์ด้านพลังปราณคนอื่นๆได้นั้น เขาจะต้องเป็นปรมาจารย์ผู้มีพลังปราณภายในเป็นเลิศ หรืออย่างน้อยก็ได้รับการถ่ายทอดพลังที่คล้ายคลึงกันมา แต่ข้าก็ไม่อาจสัมผัสถึงกลิ่นอายของปรมาจารย์ของเขาได้เลย!”

ดูจากหลุมรูปร่างมนุษย์ที่เกิดจากร่างของเจี่ยงเจิ้งเต๋อแล้วนั้น เจ้าหนุ่มนั่นจะต้องได้รับการถ่ายทอดพลังของปรมาจารย์มาอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นเจี่ยงเจิ้งเต๋อก็คงจะไม่ตายอย่างน่าอนาถเช่นนี้ได้ผู้อาวุโสอีกท่านพี่กำลังศึกษาเวทีอยู่ได้วิเคราะห์ออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร