ยิ่งไปกว่านั้น ซูอวี่ฉีก็ปรารถนาที่จะดูแลเฉินผิงกับกู่หลิงเอ๋อร์ อย่างไรเสียพวกเธอสองคนก็สนิทสนมกัน ยามที่เฉินผิงออกเดินทางก็สามารถอยู่เป็นเพื่อนกันได้
กู่หลิงเอ๋อร์อยู่ในห้องน้ำเป็นชั่วโมงกว่าจะออกมา เมื่อเธอเห็นกู่หลิงเอ๋อร์ยืนอยู่ตรงนั้น ซูอวี่ฉีก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ “หลิงเอ๋อร์ ธะ เธอเปลี่ยนไปมากเลย มาส่องกระจกดูสิ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู่หลิงเอ๋อร์จึงรีบเดินไปที่กระจก เมื่อเห็นผิวพรรณงดงามนวลเนียนของตนเองแล้ว เธอก็รู้สึกตื่นเต้นมากทีเดียว
เฉินผิงจ้องมองโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน หลังจากกู่หลิงเอ๋อร์กินยาล้างไขกระดูกก็แผ่รัศมีอันไม่ธรรมดาสามัญออกมา
หญิงสาวทั้งสองคนที่ยืนอยู่เคียงข้างกันสวยพอๆ กัน แต่อุปนิสัยใจคอของพวกเธอกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ซูอวี่ฉีราวกับเทพธิดาผู้มีเมตตา ขณะที่กู่หลิงเอ๋อร์ราวกับเทพธิดาแห่งสงคราม อย่างไรเสียก็นับว่าสมเหตุสมผลดี เนื่องจากเธอเคยทำงานอยู่ในกระทรวงยุติธรรมมาก่อน
ยามที่เขาเห็นพวกเธอสองคนยืนอยู่ตรงหน้า เฉินผิงก็อดที่จะคิดสกปรกมิได้
ว้าว ถ้าหากฉันได้พวกเธอทั้งสองคนมาครอบครอง เมื่อฉันนอนหลับยามค่ำคืนก็สามารถตระกองกอดได้ทั้งซ้ายและขวา โอ้พระเจ้า เช่นนั้นก็คงจะวิเศษไปเลย!
กว่าจะรู้ตัว เฉินผิงก็ยิ้มออกมาราวกับคนโง่งม จนไม่ทันได้สังเกตว่าซูอวี่ฉีกับกู่หลิงเอ๋อร์เดินเข้ามาหาตนตั้งแต่เมื่อไหร่
หลังจากพวกเธอเห็นรอยยิ้มโง่งมเช่นนั้น หญิงสาวทั้งสองคนก็มองหน้ากันแล้วร้องตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน
เฉินผิงสะดุ้งโหยง ตอนที่เขาได้สติก็พบว่าทั้งซูอวี่ฉีและกู่หลิงเอ๋อร์กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด เขาจึงรีบกลับไปนั่งที่โซฟาทันที
“เฉินผิง เมื่อสักครู่คุณยิ้มเรื่องอะไรงั้นเหรอ?” กู่หลิงเอ๋อร์ถาม
“ปะ เปล่าสักหน่อย” เฉินผิงตอบอย่างเก้อกระดาก
“ฉันพนันเลยว่าเขากำลังนึกถึงเรื่องที่มีพวกเราสองคนหลับนอนกับเขายามค่ำคืนอยู่แน่ๆ นั่นก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เขายิ้มราวกับคนโง่งมยังไงล่ะ”
ซูอวี่ฉีพูดแทงใจดำ เพราะมันเป็นสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่จริงๆ
“โอ้ อย่าพูดเหลวไหลน่า ผมไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย” เฉินผิงโกหก เขาทะลึ่งพรวดจากโซฟาแล้วเดินออกไป “พวกคุณสองคนคงต้องรับประทานอาหารค่ำโดยไม่มีผมเสียแล้วล่ะ พอดีผมมีเรื่องต้องไปทำ”
เขาไม่กล้าอยู่ที่บ้านอีกต่อไป ใครจะรู้กันเล่า? เขาอาจจะติดกับผู้หญิงสองคนนั้นเข้าจริงๆ ก็ได้
“ก็งั้นๆ แหละครับ อย่างไรเสียพวกเราก็อายุปูนนี้กันแล้ว พวกเราไม่ได้แสวงหาความสนุกและความตื่นเต้น พวกเราแค่อยากจะหาคู่ชีวิต ถึงกระนั้นพวกเราก็มีความสุขที่ได้รับใช้คุณนะครับ คุณเฉิน”
หลินเทียนหู่รู้สึกซาบซึ้งใจในตัวเฉินผิงมาโดยตลอด เพราะฝ่ายหลังเป็นเหตุผลที่ทำให้เขากลายมาเป็นปรมาจารย์ หากปราศจากความช่วยเหลือของเฉินผิง หลินเทียนหู่ก็คงไม่สามารถเลื่อนมาถึงขั้นนั้นได้ชั่วชีวิต
“ในเมื่อคุณรู้ว่าตัวเองอายุไม่ใช่น้อยๆ ก็ควรจะรีบมีลูกได้แล้ว อย่างน้อยก็เพื่อให้ตนเองมีทายาทสืบทอด การที่ผู้ฝึกยุทธ์มีลูกตอนอายุสี่สิบต้นๆ ก็ใช่ว่าจะแย่สักหน่อย”
ผู้ใดก็ตามที่เลื่อนถึงระดับปรมาจารย์อาวุโสจะสามารถมีอายุขัยยืนยาวกว่าคนทั่วไป นับเป็นเรื่องปกติที่ปรมาจารย์อาวุโสจะมีชีวิตอยู่ได้เป็นร้อยปี อันที่จริงนั่นเป็นเรื่องธรรมดาของพวกเขาอยู่แล้ว เพราะพวกเขามีร่างกายที่แข็งแกร่งและสุขภาพดีกว่าคนทั่วไปมากนัก
“ผมไม่เคยนึกถึงเรื่องมีลูกมาก่อนเลย มันยุ่งยากเกินไป”
หลินเทียนหู่หัวเราะ เขาเป็นราชันโลกใต้ดินแห่งหงเฉิงมาครึ่งค่อนชีวิต ดังนั้นเขาจึงไม่เคยนึกถึงเรื่องมีลูกมาก่อนเลย
เมื่อเฉินผิงเห็นเช่นนี้ก็ได้แต่ยิ้ม อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่มย่าม ดังนั้นเขาจึงไม่เอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
8เหรียญเท่ากับกี่บาท...
ไม่มีบีตรเครดิตก็ต้องรออ่านแบบฟรี รอนานหน่อย...
กำลังสนุกเลย ไปไหนแล้ว รีบกลับมานะคะรับ...
รอจะอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้อ่าน แต่ไม่เป็นไรครับเราไม่ได้อ่านคุณก็ไม่ได้รายได้...
ไม่มีตอน 3867-3871 ครับ...
เกินเดือนละ...
รออยู่นะครับ...
จะลงแดงแล้ว...
หายไปหลายวัน ไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...