หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 792

หลายคนที่อาศัยอยู่ตรงนั้นออกจากบ้านมามองเมฆหลากสีกลางท้องฟ้า เด็กน้อยไม่กี่คนถึงกับกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างมีความสุข

ซูฉางเซิงและผู้อาวุโสคนอื่นๆ อ้าปากค้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาด้วยความงุนงงอย่างถึงที่สุด

ถึงพวกเขาจะบรรลุถึงระดับปรมาจารย์ยุทธ์แล้ว แต่ก็อดทึ่งมิได้กับนักเวทย์ที่แข็งแกร่งมากพอจะรวบรวมพลังแห่งสวรรค์และปฐพี ทั้งยังควบคุมสภาพอากาศได้อีกด้วย อย่างไรเสีย ก็ไม่มีใครเชี่ยวชาญด้านวงแหวนอาคมเลยสักคน

เจ้าหุบเขายาที่แลดูเหมือนทวยเทพกำลังลงมาสู่โลกมนุษย์ กำลังล่องลอยอยู่กลางอากาศภายใต้แสงสว่างโชติช่วงจากหมู่เมฆ

“ไอ้เด็กสารเลว มอบเตาหลอมเสินหนงกับ 'ตำรากลั่นยา' มาซะ ถ้าหากแกยอมเชื่อฟังคำสั่งของฉัน บางทีฉันอาจจะไว้ชีวิตแกก็ได้” เจ้าหุบเขายากล่าวพลางจ้องมองเฉินผิงอย่างเย็นชา

“เตาหลอมเสินหนงอย่างนั้นรึ?” ซูฉางเซิงและผู้อาวุโสคนอื่นๆ ตกตะลึงพลางหันไปมองเฉินผิง

“เฉินผิง เตาหลอมเล็กจ้อยใบนั้นของคุณคือเตาหลอมเสินหนงจริงๆ งั้นเหรอ?” ซูฉางเซิงถามด้วยความไม่อยากเชื่อ

เฉินผิงผงกศีรษะ “ใช่แล้วครับ ดูเหมือนว่าเจ้าหุบเขาของคุณจะมุ่งเป้ามาที่เตาหลอมเสินหนงของผมมาตั้งแต่แรก!”

หลังจากนั้นซูฉางเซิงก็เงียบไป เจ้าหุบเขายามีเจตนาบีบบังคับให้ส่งมอบเตาหลอมอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เขาถูกฉุดไปพร้อมกับเฉินผิงเสียแล้ว

“ถ้าแกมีปัญญา ก็มาเอาคืนไปสิ” เฉินผิงกล่าวกับเจ้าหุบเขายา พลางค่อยๆ แหงนหน้ามองเขา

“ไอ้เด็กสารเลว ฉันวางวงแหวนอาคมเอาไว้ที่นี่มาสามสิบปีแล้ว ฉันถ่ายพลังแห่งสวรรค์และปฐพีตลอดจนรวบรวมเจตจำนงสังหารเอาไว้แถวนี้แล้ว แม้แต่ผู้อาวุโสพวกนี้ก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากฉันได้เลย ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แกยังคิดว่าจะตอบโต้ได้งั้นรึ?” เจ้าหุบเขายาเอ่ยขึ้นอย่างน่าขนลุก

“วงแหวนอาคมของแกก็น่าประทับใจอยู่หรอกนะ น่าเสียดายที่มันไม่ได้ผลกับฉัน” เฉินผิงส่ายหน้า

“ฉันรู้แล้ว ยังไงแกก็ไม่เต็มใจยอมแพ้สินะ” หลังจากกล่าวเช่นนั้น เจ้าหุบเขายาก็สำแดงเคล็ดวิชาออกมา เมฆสีรุ้งเริ่มปั่นป่วนและไม่นานก็กลายเป็นพายุหมุนขนาดมหึมาพุ่งเข้าใส่เฉินผิง

ซูฉางเซิงและผู้อาวุโสคนอื่นๆ ต่างรู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่เห็น แม้แต่ปรมาจารย์ยุทธ์อย่างพวกเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังกดดันอันมหาศาลจากพายุหมุนดังกล่าว

ในยามนนั้น เฉินผิงเองก็สัมผัสได้ถึงพลังอันแกร่งกล้าที่เข้าใกล้เสียจนปกคลุมไปทั่วทั้งตัวของเขา แต่เขามิได้แสดงความหวาดกลัวออกมา ทว่าเฉินผิงกลับจ้องมองพายุหมุนที่ก่อตัวจากเจตจำนงสังหารด้วยความปรารถนาที่กำลังลุกโชติช่วงอยู่ในดวงตาของเขา

เขาได้ประจักษ์ในความแข็งแกร่งของเฉินผิงแล้ว ถึงแม้ว่าเฉินผิงจะสามารถเทียบได้กับปรมาจารย์ยุทธ์ที่เพิ่งจะเลื่อนระดับขั้นพลังฝีมือขึ้นมาได้ แต่เขาแน่ใจว่าเฉินผิงไม่สามารถเอาชนะเขาในการต่อสู้ได้

แต่เฉินผิงเพิ่งจะผลักเขาไปข้างหลังแล้วตัดสินใจที่จะต่อสู้ตามลำพัง เขาคิดจะฆ่าตัวตายใช่ไหม?

ถึงจะมีความคิดเช่นนั้นอยู่ในใจ แต่ซูฉางเซิงก็ไม่เชื่อว่าเฉินผิงจะทำเช่นนั้นได้

หลังจากเจ้าหุบเขายาเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น เขาก็จ้องมองเฉินผิงอย่างเย็นชาพลางกล่าวว่า “ไอ้เด็กสารเลว แกมันโอหังเกินไปแล้ว”

ตู้ม!

พายุหมุนที่ก่อตัวขึ้นจากเจตจำนงสังหารพุ่งไปทางเฉินผิง พลางส่งหินก้อนใหญ่ให้ปลิวว่อนไปทั่วทุกหนแห่งแล้วสลักเป็นร่องลึกบนพื้น

ทุกคนในหุบเขายารู้สึกตื่นตะลึงกับภาพดังกล่าว เพราะนับตั้งแต่ก่อตั้งหุบเขามา สภาพอากาศวิปริตเช่นนั้นไม่เคยเกิดขึ้นในหุบเขายามาก่อนเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร