“ไม่หรอกค่ะ ฉันไม่เคยคิดหวัง ว่าจะได้อะไรจากตระกูลยูล” น้ำเสียงของแคทเธอรีนเต็มไปด้วยความอ่อนใจ “ถึงยังไง คราวนี้ฉันก็ต้องไปที่แคนเบอร์รา ฉัน...”
“ไปเถอะครับ” เวสลีย์วางมือลงบนหลังมือของเธออย่างแผ่วเบา “ไม่ต้องห่วงผม ผู้ดูแลจะดูแลผมเอง”
“ขอบคุณนะคะ” ความจริงแล้ว แคทเธอรีนรู้สึกซาบซึ้งมาก เวสลีย์และฌอนช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เวสลีย์อ่อนโยนและพร้อมรับฟังเธออยู่เสมอ
ในทางตรงกันข้าม ฌอนเอาแต่ใจตัวเองและเย่อหยิ่ง เธอมักจะต้องอดทนกับพฤติกรรมของเขา เมื่อไรก็ตามที่เธออยากจะทำอะไรสักอย่าง เธอต้องพยายามทำทุกวิถีทางเท่าที่เธอจะทำได้เพื่อเกลี้ยกล่อมเขา ให้ได้รับการอนุญาตจากเขา
เธอรู้สึกว่าก่อนหน้านี้มันเป็นความเหนื่อยหน่ายที่ต้องอยู่กับฌอน เธอยังไม่ชอบเรื่องที่เขาคอยให้คนจับตาดูเธออยู่เสมอ
ถึงอย่างนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เธอมีปัญหากับการปรับตัวให้ชินกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้
“คุณคิดอะไรอยู่เหรอครับ?”
จู่ ๆ หญิงสาวที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาก็ถอยออกห่าง แววตาของเวสลีย์ฉายแววความหม่นหมองออกมา พลางจับมือของเธอเอาไว้แน่น
ในตอนนั้นเอง แคทเธอรีนก็รู้สึกตัวขึ้นมา อยากรู้ว่าอะไรทำให้เธอนึกถึงฌอนขึ้นมาอีกแล้ว “ฉันกำลังคิดว่าตระกูลยูลเป็นตระกูลใหญ่น่ะค่ะ และอาจจะเป็นสถานที่ที่อันตราย...”
เวสลีย์ยิ้มออกมาบาง ๆ “ไม่ต้องกลัวไปนะครับ ผมจะตามไปอยู่เป็นเพื่อนคุณที่แคนเบอร์ราในภายหลัง แบบนั้นคุณจะได้ไม่ต้องอยู่ตามลำพัง จริง ๆ แล้ว เมื่อปีที่แล้วผมเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศและกำลังคิดวางแผนจะพัฒนาธุรกิจในแคนเบอร์รา ตอนนี้มีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจขึ้นใหม่ในช่วงสองปีที่แล้ว ผมได้ซื้อที่ดินไว้ผืนหนึ่งเพื่อขยายโรงงานแล้วครับ”
แคทเธอรีนรู้สึกอึ้งไปและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ชื่นชมเขา “ฉันคิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็นคนที่มองการณ์ไกลแบบนี้เลยนะคะ”
“สิ่งที่ดีที่สุดคือการมองการณ์ไกลเพื่อที่จะได้ตกหลุมรักคุณครับ” เวสลีย์หัวเราะออกมาเล็กน้อยขณะที่บีบปลายจมูกของเธอเบา ๆ
แคทเธอรีนชะงักนิ่งไป ฌอนก็เคยบีบจมูกของเธอแบบนี้ ทว่า การที่ถูกเวสลีย์บีบปลายจมูกแบบนี้กลับสร้างความอึดอัดใจให้กับเธอและอยากจะขัดขืนเสียด้วยซ้ำ
“ดึกมากแล้วค่ะ ฉันขอตัวกลับไปที่ห้องของฉันก่อนนะคะ” รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาว “ทานยาแล้วก็รีบเข้านอนนะคะ”
เธอหันหลังกลับ ทว่ากลับต้องพบว่าเขาไม่ยอมปล่อยมือออกจากเธอ
“ได้ค่ะ โทรหากันนะคะ”
หลังจากที่โบกมือลา แคทเธอรีนก็ขึ้นเครื่องบินไปพร้อมกับโจเอล
โจเอลคอยสังเกตเวสลีย์ตลอดทางไปสนามบิน เขารู้สึกว่าเวสลีย์ค่อนข้างเป็นกันเอง แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจอะไรมากมายนักหลังจากที่คิดพิจารณาดูอย่างละเอียดแล้ว
ในสายตาของโจเอล เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ลูกสาวของเขามีคู่หมั้นตั้งแต่อายุยังน้อย อันที่จริงแล้ว เวสลีย์ทำให้รู้สึกทึ่งมากเมื่อคิดว่าเขาเป็นคนหนุ่มและอนาคตไกล แต่เมื่อเทียบกับตระกูลยูลแล้ว สถานภาพของเขาถือว่าค่อนข้างด้อยกว่า “เขาสละไตเพื่อช่วยลูกจริง ๆ เหรอ?”
“ค่ะ ถ้าไม่ได้เขา ดิฉันก็คงตายไปแล้ว ถ้าคุณไม่เชื่อดิฉันก็ลองสืบหาความจริงดูก็ได้ค่ะ” แคทเธอรีนกระซิบ “แล้วก็ไม่ต้องนัดบอดให้ดิฉันตอนที่เราอยู่ที่แคนเบอร์รานะคะ ดิฉันไม่สนใจเรื่องพรรค์นั้น”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ โจเอลก็หัวเราะขึ้นมาเสียงดัง แล้วจึงถอนหายใจออกมา
“พ่อจะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องแต่งงานของลูกหรอก เมื่อก่อน พ่อเคยถูกพ่อแม่บังคับให้ต้องแต่งงานกับคนที่พ่อไม่อยากแต่งด้วย เพราะแบบนั้น พ่อเลยใช้ชีวิตอย่างไม่มีความหมาย ไม่มีอะไรสำคัญเท่าความสุขของลูกอีกแล้วนะ สถานภาพรวม ๆ ของเวสลีย์เองไม่ใช่ปัญหา พ่อช่วยเหลือเขาได้เสมอ ด้วยความสามารถของเขา ควบคู่ไปกับความช่วยเหลือของพ่อ จะทำให้เขาส่องแสงพอ ๆ กับพวกคนหนุ่มสาวที่อยู่ในตระกูลร่ำรวยในแคนเบอร์ราเลยนะลูก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชายฮิลล์ ปล่อยฉันนะ!
อ่านถึงบท 295 แล้วจ้า หงุดหงิดกับพระนางแล้วคือำนพระเอกเหมือนจะเก่ง ฉลาดนะ แต่ก็แอบผิดหวังอะ อคติเกิน...
โบะบะมากแม่ 5555...
นัดจริงหรือนัดปลอมละทีนี้ 555555555...