หนาว!
น้ำเย็นจัดที่ไหลเข้าจมูกและลำคอนั้น ทำเอาไม่สามารถหายใจได้ในทันที
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกได้ว่า ศีรษะของนางกำลังถูกใครบางคนกดเอาไว้ทำให้มิอาจลุกออกมาจากน้ำเย็นได้
ในระหว่างที่นางกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายผ่านคลื่นน้ำที่กระจายไปมาได้ในทันที เสมือนกับต้องการกดนางให้ตกตายลงไปอยู่ในใต้น้ำให้จงได้
เรี่ยวแรงที่ใกล้จะหมดลงเพราะขาดอากาศหายใจนั้น ทำเอาหัวสมองของนางเต็มไปด้วยความมึนเบลอ
หากนางยังมิคิดหาทางละก็ นางจักต้องตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน
ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงกลั้นหายใจ พร้อมกับเก็บเรี่ยวแรงสุดท้ายของตนเองเอาไว้ พร้อมทั้งเลิกขยับตัวไปมา ก่อนจะปล่อยให้ร่างของตนเองจมลงไปในใต้น้ำ
เมื่อสาวใช้ที่กดนางเห็นว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่ดิ้นรนอีกต่อไปแล้วนั้น ในที่สุดนางก็วางมือ ก่อนจะหันไปแย้มยิ้มให้กับสตรีที่นั่งอยู่บนศาลาว่า “พระชายาเพคะ นางตายแล้วเพคะ ตายเพราะพลาดพลั้งตกลงไปในน้ำ”
“ทำได้ดี ทั้งหมดล้วนแต่เป็นนางที่รนหาเรื่องตัวเองแท้ ๆ!” สตรีที่นั่งอยู่ในศาลาพลางหัวเราะเยาะเย้ยออกมาด้วยความเย็นชา “รีบตะโกนเรียกผู้ใดซักคนเสีย แล้วบอกว่าพระชายาเจ็ดตกลงไปในน้ำ…”
ยังมิทันที่สตรีนางนั้นจะพูดจบ สีหน้าของนางพลันเปลี่ยนสีไปในทันที พร้อมยกมือชี้นิ้วที่กำลังสั่นเทามาที่ด้านหลังของนางกำนัลรับใช้ "ไห่ถัง ข้างหลังเจ้า..."
ยังมิทันที่นางกำนัลรับใช้นามว่าไห่ถังจะหันกลับมานั้น นางพลันถูกตบหัวลงอย่างรุนแรง ยังมิทันที่จะได้สติกลับมานั้นนางก็เป็นลมหมดสติไปเรียบร้อยแล้ว
ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองนางกำนัลที่ตกลงไปในน้ำนั้น ก่อนจะคว้าผมของนางขึ้นมาและออกแรงลากให้ขึ้นฝั่งมาในทันที
เมื่อครู่นางโจมตีลงไปที่จุดบอดบนร่างกายของนางกำนัลผู้นั้นอย่างรุนแรง ทำให้นางเพียงแค่หมดสติไปเท่านั้นหาได้ถึงตายไม่
“เจ้า เจ้าเป็นคนหรือผีกันแน่?” สตรีที่อยู่บนศาลาพลางมองมาที่นางด้วยความหวาดกลัว “เจ้าทำอะไรไห่ถัง?”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เพียงแย้มยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา
นั่นจึงทำให้สตรีที่อยู่บนศาลาพลันมีใบหน้าหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก นางมีนามว่าฉินเสวี่ยเย่ว์ เป็นน้องสาวต่างมารดาของนาง ทั้งยังเป็นคนที่ลงมือวางยากับเจ้าของร่างนี้อีกด้วย
“เจ้าคิดว่า ข้าเป็นคนหรือผีกัน?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปบนฝั่ง ด้วยร่างกายที่เปียกโชก เพียงแค่ลมหนาวพัดผ่านเข้ามานั้น ก็ทำเอาหนาวลึกเข้าไปจนถึงกระดูกในทันที
"เจ้า เจ้า..." ฉินเสวี่ยเย่ว์พลันก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว
แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาของฉินเหยี่ยนเย่ว์ ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของนาง พร้อมทั้งเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย รวมไปถึงใบหน้าที่เจือมไปด้วยความงดงามแต่ก็ดูสง่างามไม่น้อย ทำเอานางคล้ายกับผีสาวในยามราตรีที่กำลังผุดขึ้นมาจากผืนน้ำด้วยความน่ากลัว
เมื่อนางค่อย ๆ เดินไปหาฉินเสวี่ยเย่ว์ทีละก้าวแล้วนั้น
“เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร” น้ำเสียงของฉินเสวี่ยเย่ว์พลันสั่นเครือ
คนตรงหน้าคือฉินเหยี่ยนเย่ว์ แต่คล้ายกับมิใช่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็ไม่ปาน
ไม่มีทางที่สตรีโง่เง่าจักมีดวงตาที่เฉียบคมและฉายแววกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยรังสีฆ่าเช่นนั้นไปได้อย่างแน่นอน
กลิ่นอายที่เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันเช่นนี้ ทำเอานางนึกหวาดกลัวยิ่งนัก
"เจ้าอย่าเข้ามา ฉินเหยี่ยนเย่ว์ เจ้าอย่ามา..." ฉินเสวี่ยเย่ว์ค่อยก้าวถอยหลังไปทีละก้าวจนปถึงราวบันได ในที่สุดนางไม่มีที่ให้ถอยหนีได้อีก
“ดูอากาศเช่นนี้สิ เกรงว่าหิมะคงจะตกกระมัง?” เสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่แผ่วเบา กลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความอันตราย “เสื้อคลุมขนสัตว์ที่อยู่บนตัวเจ้าสวยดี ให้ข้ายืมได้หรือไม่?”
ยังมิทันที่ฉินเสวี่ยเย่ว์จะมีปฏิกิริยาตอบกลับมานั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็รับคว้าเสื้อคลุมที่อยู่บนตัวของนางเข้ามาคลุมบนร่างกายของตนเองได้ในทันที
เสื้อคลุมที่ช่วยปกป้องอากาศหนาวเย็นนั้น ทำเอาร่างกายของนางเต็มไปด้วยไอความเย็นอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย
“เจ้า เจ้ากล้าแย่งอาภรณ์ของข้าไปงั้นหรือ” ฉินเสวี่ยเย่ว์ที่สวมเพียงอาภรณ์เนื้อบางตัวเดียวนั้น เมื่อถูกไอลมหนาวพัดผ่านเข้ามาเช่นนี้ นางก็หนาวสั่นเสียทั่วร่างสั่นเทาไปในทันที ในยามที่อยากจะไปแย่งกลับมา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันขมวดคิ้วเล็กน้อย ในตอนที่ฉินเสวี่ยเย่ว์กระโจนเข้ามาหานางนั้น นางจึงเล็งไปถานจงในร่างกายพร้อมทั้งโจมตีลงไปอย่างเต็มแรงในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน