“เฮ้อ พูดถึงโจโฉโจโฉก็มาหา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชา
ท่านอ๋องสามในความทรงจำของเจ้าของเดิมนั้น เป็นบุรุษเจ้าชู้โดยแท้
ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า พร้อมทั้งเป่าผมให้แห้งอย่างลวก ๆ
เดิมทีร่างกายนี้ยังอ่อนแอมากนัก แม้ว่าจักจะอาบน้ำต้มยาเพื่อขับไล่ความหนาวเย็นออกไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้
นางจึงพับเสื้อคลุมขนสัตว์ตัวใหญ่อย่างเรียบร้อย พร้อมทั้งนำมันออกมาข้างนอกห้องด้วยกัน
บริเวณด้านนอกห้องโถงนั้น พลันมีบุรุษสองคนที่มีรูปหน้าดูคล้ายคลึงกัน หากแต่อีกคนสวมใส่อาภรณ์สีขาวและอีกคนใส่อาภรณ์สีดำเท่านั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้เห็นพวกเขา หากแต่สายตาของนางกลับถูกบุรุษที่สวมใส่อาภรณ์สีขาวดึงดูดไปมากที่สุด
ในยุคปัจจุบันที่นางอาศัยอยู่นั้น มีบุรุษมากหน้าหลายตาหล่อเหลาอยู่มากมาย นางกลับรู้สึกเบื่อกับการชื่นชมความหล่อเหล่าพวกนั้นยิ่งนัก
อย่างไรก็ตาม บุรุษที่อยู่ตรงหน้าของนางนั้น กลับทำให้นางไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
ถึงแม้ว่าเขาจะยืนนิ่ง ๆ อยู่ตรงนั้น ผมสีน้ำหมึกที่ปล่อยสยาย มีเพียงปิ่นหยกสีดำที่ปักเอาไว้ ท่าทีเคร่งขรึมนิ่งไม่ไหวติ่งราวกับต้นสนนั้น ใบหน้าที่เจือไปด้วยความเย็นราวกับความหนาวเย็นในยามเหมันต์ พร้อมด้วยท่าทีสง่างามราวกับเทพเซียน ผิวพรรณที่ใสกระจ่างราวกับเกร็ดหิมะที่กำลังโบยบิน
บุรุษผู้นี้คล้ายกับเทพเซียนที่เดินออกมาจากภาพวาดก็ไม่ปาน เสมือนกับสิ่งของที่อยู่โดยรอบกำลังถูกกลิ่นอายและรัศมีของเขาบดบังไปเสียหมด
แม้ว่าเขาจะมีรูปร่างดูคล้ายคลึงกับบุรุษชุดดำที่อยู่ข้างกายนั้น ทว่า กลิ่นอายต่าง ๆ ช่างต่างกันราวกับฟ้ากับเหวก็ไม่
“พระชายาเจ็ดจะจ้องมองเจ้าเจ็ดนานหรือไม่?” บุรุษชุดดำพลางเอ่ยออกมาด้วยวาจาเยาะเย้ย
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันตกตะลึงไปอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่นางจะค่อย ๆได้สติกลับมาว่าตนเองเผลอจ้องมองบุรุษชุดขาวโดยไม่ได้ตั้งใจ
ตามความทรงจำของเจ้าของร่างนี้นั้น บุรุษในชุดอาภรณ์ขาวที่คล้ายกับเทพเซียนผู้นี้เป็นพระสวามีราคาถูกของนาง ผู้สืบทอดลำดับที่เจ็ดหนิงอ๋องตงฟางหลี
บุรุษชุดดำที่อยู่ถัดจากตงฟางหลีนั้น หาใช่ใครอื่นใดไม่นอกเสียจากตงฟางลั่ว ผู้สืบทอดลำดับที่สามท่านอ๋องตงฟางลั่ว
เดิมทีเจ้าของร่างเดิมนั้นได้ทำการหมั้นหมายกับท่านอ๋องสามที่ตนเองหลงรักเสียจนหัวปักหัวปำเอาไว้อยู่แล้ว เพียงเพื่อต้องการเอาใจท่านอ๋องสามนั้น ทำให้นางสามารถลงมือทำเรื่องโง่ ๆลงไปเสียมากมายโดยไม่อาจถอนตัวออกมาได้
ทว่า เจ้าของเดิมที่หลงรักอ๋องสามอย่างบ้าคลั่งนั้นกลับต้องมาตบแต่งให้กับอ๋องเจ็ดตงฟางหลีแทน นั่นก็เป็นเพราะแผนการสมรู้ร่วมคิดที่ออกแบบมาอย่างดี
หากตามความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมนั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้หลงเชื่อในคำโกหกของฉินเสวี่ยเย่ว์ นางเตรียมการที่จะใช้งานเลี้ยงฉลองช่วงสารทฤดูของราชวงศ์ วางแผนให้อ๋องสามดื่มสุราจนมอมมายเพื่อให้เกิดเรื่องที่มิอาจหวนคืนกลับไปได้อีก
ฉินเสวี่ยเย่ว์พยายามหลอกลวงให้นางมอบทั้งกายและใจของตนเองให้กับอ๋องสาม เช่นนี้ก็จะทำให้นางสามารถครอบครองหัวใจของอ๋องสามได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกัน ฉินเสวี่ยเย่ว์ก็ได้เล่าแผนการนี้พร้อมทั้งใส่สีเติมไข่ลงไปให้อ๋องสามฟัง นั่นจึงทำให้อ๋องสามโกรธโมโหยิ่งนัก พร้อมทั้งนัดแนะห้องที่ว่างเว้นเอาไว้ เพื่อที่จักให้ชายหูหนวกทำลายความบริสุทธิ์ของฉินเหยี่ยนเย่ว์เสีย
ทว่า สิ่งที่มิมีผู้ใดคาดคิดก็คือ อ๋องเจ็ดตงฟางหลีที่มีอาการไม่ค่อยสบายนั้น กลับเข้าไปนอนพักผ่อนในห้องนั้นเสียแทน ทั้งยังเอาตัวชายหูหนวกผู้นั้นจัดการนำตัวออกจากห้องไปเสียด้วย
เจ้าของร่างเดิมที่เมามายด้วยฤทธิ์สุราพร้อมทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ไม่ค่อยเรียบร้อยนั้น จึงบุกเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับตงฟางหลีที่นอนพักผ่อนอยู่แทน พร้อมทั้งฉินเสวี่ยเย่วและอ๋องสามที่พาผู้คนกรูเข้ามาตามหาความจริงคาหนังคาเขา
หลังจากที่มีเรื่องอื้อฉาวนี้เกิดขึ้น ท่านอ๋องสามซึ่งแต่เดิมทีได้ทำการหมั้นหมายกับเจ้าของร่างเดิมเอาไว้นั้น จึงได้ทำการยกเลิกการหมั้นหมายขึ้นในทันที
หลังจากที่เจ้าของเดิมรู้เรื่องเข้า ก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ พลางเอาแต่สร้างปัญหาโวยวายว่าจะจบชีวิตของตนเอง จนกระทั่งทำก่อเรื่องโง่ ๆ ขึ้นมาว่าตงฟางหลีจงใจทำลายความสัมพันธ์ของนางกับท่านอ๋องสาม
ไม่นานนัก อ๋องเจ็ดจึงได้นำเรื่องกราบทูลขอสมรสพระราชทานเพื่อตบแต่งกับเจ้าของร่างเดิมในทันที ฝ่าบาทที่ต้องการปลอบใจตระกูลฉินนั้น จึงได้ออกพระราชโองการให้ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตบแต่งกับตงฟางหลี พร้อมทั้งยังมอบสมรสพระราชทานน้องสาวของนางฉินเสวี่ยเย่ว์ให้ตบแต่งกับท่านอ๋องสามแทน
เมื่อความทรงจำในครั้งนั้นพรั่งพรูเข้ามา ก็ทำฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมโดยไม่รู้ตัว
ผู้ที่หลงมัวเมาในความรักจักนึกโง่เง่าขึ้นมาได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ?
ถึงแม้ว่าเจ้าของร่างเดิมจักก่อเรื่องใหญ่วุ่นวายมากถึงขนาดนี้ แต่นางกลับได้รับการช่วยเหลือจากตงฟางหลีขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ทว่า ตนเองยังคิดจะไปหวังพึ่งพาอ๋องสามผู้ไร้ยางอายเช่นนั้นอีก? หากมิใช่ว่ามีตระกูลฉินปกป้องนางอยู่ละก็ เกรงว่านางคงได้ถูกเอาตัวเข้าไปคุมขังอยู่ในคุกนานแล้ว คนโง่เง่าเช่นนี้อยู่รอดจนเติบใหญ่มาได้นับว่าน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
"พวกเจ้า นำมันเข้ามา" จู่เสียงของท่านอ๋องสามพลันขัดจังหวะความคิดของฉินเหยี่ยนเย่ว์ในทันที ก่อนที่ทจะเห็นข้ารับใช้หลายคนอุ้มศพร่างหนึ่งขึ้นมาที่กลางห้องโถง
“เจ้าเจ็ด พระชายาของเจ้าทำเรื่องเช่นนี้ลงไป เจ้าควรจักลงโทษนางเช่นไรดี เจ้าชี้แจ้งมาเสีย?” ท่านอ๋องสามเอ่ยออกมาด้วยความเย็นชา “นางบุกเข้าไปก่อความวุ่นวายถึงในวังของข้า ทั้งยังเตะพระชายาของข้าลงไปในน้ำอีก ยังทำการสังหารนางกำนัลรับใช้ในของข้าอีกด้วย มีอย่างที่ไหนกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน