เฟิ่งชูอิ่งโพล่งออกไปว่า “ถ้าอย่างนั้นรบกวนท่านลุงสั่งให้ท่านป้าตบหน้าตัวเองสิบทีแล้วเอ่ยขอโทษข้า จากนั้นก็เอาทรัพย์สินทั้งหมดที่ฉกฉวยไปจากข้ามาคืนให้ครบถ้วนทีสิ”
หลินชูเจิ้ง “!!!!!!”
นางกล้าพูดออกมาได้อย่างไร!
เขาถลึงตามองนาง “เจ้ารู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา?”
เฟิ่งชูอิ่งตอบกลับ “รู้ตัวสิ ท่านลุงเพิ่งจะบอกว่าจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกข้ามิใช่หรือ แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ท่านป้าเอาแต่ตบตีด่าทอข้าตลอดเลย
“เมื่อกี้นี้ท่านป้าก็เพิ่งจะด่าข้าแบบสาดเสียเทเสีย หากนางยังเหลือความจริงใจอยู่บ้างก็ควรจะกล่าวขอโทษข้ามิใช่หรือ?
“ขอโทษเสร็จแล้ว ก็ช่วยเอาทรัพย์สินทั้งหมดของข้ามาคืนด้วยล่ะ ก่อนหน้านี้พวกท่านบอกว่าข้ายังเด็กไม่รู้ความ ก็เลยจะช่วยดูแลรักษาให้ก่อนชั่วคราว ตอนนี้ข้าโตแล้วก็สมควรได้คืนกระมัง!”
หลินชูเจิ้ง “......”
เขารู้สึกว่าเฟิ่งชูอิ่งแตกต่างไปจากความทรงจำของเขาอย่างสิ้นเชิง เมื่อก่อนขอแค่เขาพูดปลอบนางนิดเดียว เฟิ่งชูอิ่งก็จะยอมทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย
ทว่าวันนี้นางกลับกล้าสั่งให้เขาคืนเงิน มันจะเป็นไปได้อย่างไรละ!
หลินชูเจิ้งมองเฟิ่งชูอิ่งแล้วกล่าวว่า “ชูอิ่ง ท่านป้าของเจ้าเป็นผู้ใหญ่...”
“อ๊า!” หลินหว่านถิงร้องเสียงหลง เพราะเฟิ่งชูอิ่งขยับมีดกรีดคอนางซ้ำอีกหนึ่งแผล
รอยกรีดคราวนี้หากเฟิ่งชูอิ่งขยับมีดสูงขึ้นอีกนิดหน่อยก็จะโดนใบหน้าของหลินหว่านถิง แต่หากกดมีดลงต่ำก็จะเฉือนคอหอยของนางเต็มๆ
เฟิ่งชูอิ่งกล่าวด้วยสีหน้าตระหนก “แสดงว่าสิ่งที่ท่านลุงพูดออกมาเมื่อครู่นี้ล้วนเป็นเรื่องโกหกสินะ!
“ในความคิดของท่าน ไม่ว่าท่านป้าจะทำอะไรกับข้าก็ไม่ใช่เรื่องผิดอย่างนั้นหรือ?
“ท่านอ๋องฉู่บอกว่า หากข้าแต่งเข้าจวนอ๋องไปโดยไม่มีสินเจ้าสาวที่สมน้ำสมเนื้อ เขาจะปลิดชีพข้าก่อนถึงวันแต่ง!
“ในเมื่อจะเลือกทางไหนข้าก็ต้องตายอยู่ดี ถ้างั้นวันนี้ข้าก็จะลากพี่สาวลงนรกไปกับข้าด้วย!”
นางพูดจบก็ทำท่าจะกดคมมีดลงบนคอหอยของหลินหว่านถิง
หลินชูเจิ้งกับฮว๋าซื่อจึงรีบตะโกนประสานเสียง “หยุดนะ!”
เฟิ่งชูอิ่งหันมองพวกเขานิ่งๆ ฮว๋าซื่อพลันกล่าวอย่างร้อนรน “มีอะไรก็พูดกันดีๆ เถอะ!”
เฟิ่งชูอิ่งกล่าวด้วยดวงตาแดงก่ำ “ขอโทษมาสิ!”
ฮว๋าซื่อขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างเคียดแค้น แต่ดันทำใจตบหน้าตัวเองไม่ได้
หลินหว่านถิงจึงร้อนรนแทน “ท่านแม่ ช่วยด้วยเจ้าค่ะ!”
นางเกิดกลัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว ชีวิตของเฟิ่งชูอิ่งไม่มีค่าอะไร นางอยากจะตายก็ตายไปสิ แต่จะลากนางไปตายด้วยไม่ได้
อ๋องเฉินสัญญากับนางไว้แล้ว ว่าหากนางทำภารกิจของเขาให้สำเร็จลุล่วงได้ จะมาสู่ขอนางเป็นพระชายาเอก
ใครบ้างไม่รู้ว่าอ๋องเฉินเป็นบุตรชายที่ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานมากที่สุด หากนางได้แต่งเป็นพระชายาของอ๋องเฉิน เมื่อไหร่ที่อ๋องเฉินได้ขึ้นครองราชย์ นางก็จะกลายเป็นฮองเฮา พระมารดาของแผ่นดิน!
ถึงฮว๋าซื่อจะไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องยอมกล่าวว่า “ชูอิ่ง ขอโทษด้วย ตอนที่ข้าอบรมสั่งสอนเจ้าคงเผลอใช้อารมณ์มากเกินไป ดังนั้นเจ้าก็เลยเข้าใจข้าผิดเช่นนี้”
“ก่อนหน้านี้เจ้ายังอายุน้อย ดังนั้นข้าก็เลยช่วยเจ้าดูแลสมบัติของบิดามารเจ้าแทน
“เจ้าสบายใจได้เลย พอถึงเวลาที่เจ้าแต่งงานกับอ๋องฉู่ ข้าจะต้องเอาทรัพย์สินทั้งหมดของบิดามารดาเจ้าไปคืน ให้เจ้าใช้เป็นสินเดิมแต่งเข้าจวนอ๋องแน่นอน”
เฟิ่งชูอิ่งหันหน้าไปมองหลินชูเจิ้ง “ท่านลุง เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
หลินชูเจิ้งตอบ “ต้องจริงอยู่แล้วสิ ข้าอยู่ตรงนี้ทั้งคน รับรองว่าจะไม่แตะต้องสมบัติที่บิดามารดาเจ้าทิ้งเอาไว้แม้แต่นิดเดียว”
เฟิ่งชูอิ่งสูดหายใจแล้วกล่าวว่า “ท่านเขียนหนังสือสัญญามาสิ แล้วข้าจะยอมเชื่อ”
หลินชูเจิ้ง “......”
เขาลองสังเกตเฟิ่งชูอิ่งอีกครั้ง พบว่าเด็กสาวน้ำตาคลอเบ้า ร่างกายสั่นระริก แสดงออกชัดเจนว่ากำลังหวาดกลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี