เนื่องจากตัวตนของอีกฝ่าย ซูจื่ออวี๋จึงต้องกล่าวทำความเคารพ “น้อมทักทายอานซื่อจื่อ น้อมทักทายเป่ยเยว่จวิ้นจู่”
และพี่น้องตระกูลซูคนอื่นๆ ก็ทำความเคารพเช่นกัน
อานเป่ยเยว่มองซูจื่ออวี๋แล้วหัวเราะเยาะก่อนจะหมุนตัวจากไป
ซูจื่ออวี๋ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย อานเป่ยเยว่คนนี้ก็เสียเปรียบให้นางอยู่ไม่น้อย หนึ่งเดือนก่อน ถูกอานซื่อจื่อขังไว้ในจวนไม่สามารถออกมาก่อเรื่องกับนางได้
แต่ตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากันแล้ว อานเป่ยเยว่ยสามารถข่มกลั้นความโกรธไม่หาโอกาสแก้แค้นนางได้ ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่
ซูจื่ออวี๋ก็เห็นพระชายาอ๋องอานซินเข้าประตูวังไปพร้อมกับอานเป่ยเยว่ ในใจก็เริ่มกระวนกระวายใจ
“คุณหนูสามซู เรื่องคราวก่อนต้องขอโทษจริงๆ น้องสาวของข้าดื้อรั้นยิ่งนัก หวังว่าคุณหนูสามจะไม่ถือสานาง” เสียงของอานเป่ยซานเรียกสติของซูจื่ออวี๋กลับมา
ความประทับใจที่มีต่ออานเป่ยซานของซูจื่ออวี๋ก็ถือว่าไม่เลว เมื่อเขายอมลดตัวมาขอโทษ นางจึงไม่ควรหยิ่งทะนงเกินไป
ซูจื่ออวี๋กล่าวด้วยรอยยิ้มบาง “อานซื่อจื่อคิดมากเกินไปแล้ว เรื่องคราวก่อนข้าลืมไปหมดแล้วล่ะ?”
อานเป่ยซานตะลึงงัน ไม่นานหลังจากนั้นจึงเข้าใจความหมายของซูจื่ออวี๋ นางไม่เพียงแต่ลืมความขัดแย้งระหว่างจวนอ๋องอานชินไปแล้ว แต่ยังลืมการขอแต่งงานของอานเป่ยซานด้วย
อานเป่ยซานกลับรู้สึกขมขื่นในใจเล็กน้อย อดพูดขึ้นมาไม่ได้ “คุณหนูสาม คำสัญญาของข้ายังมีผล วันนั้นข้าทำให้เจ้าด่างพร้อย...”
“จื่ออวี๋” เสียงเย็นยะเยือกขัดจังหวะประโยคของอานเป่ยอวี๋ ทุกคนเมื่อมองตามเสียงนั้น ก็เห็นอ๋องแปดจวินมู่เยว่กำลังเข็นรถเข็นของจวินมู่เหนียนเดินมาอย่างช้าๆ
เสียงเรียก “จื่ออวี๋” ที่เย็นยะเยือกแทบจะไร้อุณหภูมิเมื่อครู่นี้ มาจากปากของจวินมู่เหนียน
จื่ออวี๋...
อ๋องฉินเรียกสนิทสนมขนาดนี้เลยหรือ?
เสนาบดีซูก็ดีใจมาก ลูกสาวตระกูลซูต่างก็พากันอิจฉาและเกลียดชัง แต่อานเป่ยซานกลับตะลึงงันอยู่กับที่
ซูจื่ออวี๋แค่นเสียงฮึๆ ไม่ใส่ใจมากนัก อ๋องที่หยิ่งยโสเช่นนี้ ชมนางสักหน่อยมันจะตายหรืออย่างไร ดังนั้นนางจึงไม่อยากจะถือสาเขา
ตราบใดที่อ๋องฉินช่วยนางให้หลุดพ้นจากอานเป่ยซานได้ นางก็พอใจแล้ว
เสนาบดีซูได้ยินเช่นนั้นแล้ว ก็ยิ่งยิ้มอย่างมีความสุขจนปากจะฉีกถึงรูหู เขารีบก้าวเข้าไปแล้วตำหนิด้วยรอยยิ้ม “อวี๋เอ๋อร์ อย่าเสียมารยาท ยังไม่รีบขอบคุณที่อ๋องฉินให้รางวัลอีก สายตาของท่านย่อมดีที่สุดแน่นอน”
ซูจื่ออวี๋เบ้ปาก โค้งตัวเล็กน้อยอย่างเชื่อฟัง “ใช่แล้วเพคะ หม่อมฉันขอบพระทัยในความเมตตาของท่าน สายตาของท่านย่อมดีที่สุด”
เสียงของซูจื่ออวี๋ยังไม่จบลง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“สายตาของน้องเจ็ดดีหรือไม่ดีข้าไม่รู้ แต่สายตาของเสนาบดีซูเหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ” น้ำเสียงที่ฟังดูไม่พอใจและไม่น่าฟังนี้ ซูจื่ออวี๋ไม่ต้องหันกลับไปมองก็เดาได้ว่าเป็นใคร ถ้าไม่ใช่อ๋องรองจวินมู่หลานแล้วจะเป็นใครไปได้อีก
แต่แปลก... จวินมู่หลานคนนี้กินพิษของนางไปแล้ว อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสองวันในการแก้พิษ ทำไมวันนี้เขาถึงกล้าออกมาจากจวน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...