จวินมู่เหนียนเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยใจ บอกว่า
“เสด็จพ่อให้หนานหยวนหรัวอยู่ต่อ แต่งตั้งให้นางเป็นซูเฟย”
จวินมู่เหนียนเหนื่อยใจจริงๆ เดิมเขานึกว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องราวในความฝันได้ แต่ไม่คิดว่ากลับดำเนินไปตามความฝัน
ไม่รู้ว่าเสด็จพ่อถูกใจหนานหยวนหรัวตรงไหน ถึงได้อยากจะแต่งตั้งนางเป็นสนม
ซูจื่ออวี๋ตกใจมากเมื่อเห็นว่าผลเป็นเช่นนี้ อดไม่ได้จึงถามว่า
“หนานหยวนหรัวตกลงหรือ? นี่ไม่เหมือนนิสัยของนางเลย”
จวินมู่เหนียนบอกว่า
“ไม่ได้อยู่ที่นางว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะหนานหยวนชิงเป็นฝ่ายเสนอเรื่องแต่งงานครั้งนี้เอง แต่เสด็จพ่อรับสั่งว่าไม่มีองค์หญิงคนไหนอยู่ในวัยจะแต่งงาน จึงบอกปัดข้อเสนอของหนานหยวนชิง ต่อมาทรงบอกว่าชื่นชอบหนานหยวนหรัว ยินดีให้องค์หญิงหนานเจียงอยู่ที่นี่ต่อ จึงรับสั่งแต่งตั้งนางเป็นหนึ่งในสี่พระสนมซูเฟย”
ซูจื่ออวี๋เบะปาก แม้จะบอกว่าเป็นหนึ่งในสี่พระสนม ถือว่าได้รับพระกรุณาเป็นล้นพ้น แต่ชีวิตนี้ของหนานหยวนหรัว คงจบลงเพียงเท่านี้
ซูจื่ออวี๋คิดไปคิดมา นึกถึงเรื่องยิงนัดเดียวได้นกสามตัวที่ซื่อจี้มาบอกในวันนี้ ดีไม่ดีหนึ่งในนกที่ว่าอาจจะเป็นการหลุดพ้นจากเรื่องแต่งงานในครั้งนี้?
จวินมู่เหนียนเห็นซูจื่ออวี๋สีหน้าไม่ค่อยดี จึงปลอบว่า
“อย่าห่วงเลย ต่อให้นางกลายเป็นซูเฟย ก็ไม่สามารถก่อเรื่องอะไรได้หรอก”
ซูจื่ออวี๋พยักหน้า จากนั้นถามว่า
“ท่านอ๋อง หาตัวหยินซวงเจอหรือไม่?”
เมื่อเอ่ยถึงหยินซวง จวินมู่เหนียนอดหัวเราะไม่ได้ บอกว่า
“เจ้าลองทายดูสิ ว่านางไปอยู่ที่จวนของผู้ใด?”
มุมปากซูจื่ออวี๋กระตุก ตอบอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจว่า
“คงไม่ใช่จวินมู่หลานหรอกนะ?”
จวินมู่เหนียนยื่นมือไปลูบหัวนาง เอ่ยปากชมว่า
“ฉลาดมาก”
ซูจื่ออวี๋อดกลอกตาไม่ได้ นี่เรียกว่าเจ้ากรรมนายเวรได้หรือไม่?
ทำไมทุกเรื่องต้องไปเกี่ยวข้องกับจวินมู่หลานด้วย
จวนอ๋องรอง
จวินมู่เหนียนทายไว้ไม่ผิด จวินมู่หลานทุ่มเทแรงกายตามหาตู้เสี่ยวโหลวเพื่อหยกเจี๋ยจื่อ
เพียงแต่จวินมู่หลานไม่คิดว่า ลูกน้องจะโง่เขาถึงเพียงนี้ เพราะคนที่พากลับมาไม่ใช่ตู้เสี่ยวโหลว
เมื่อมองหยินซวงที่คุกเข่าอยู่ตรงกลาง จวินมู่หลานขมวดคิ้วบอกว่า
“เงยหน้าขึ้น”
ตอนนี้หยินซวงที่อายุเลยสามสิบไปแล้ว ยังคงความงดงามไม่แพ้พวกเด็กสาว นางเงยหน้ามองจวินมู่หลานเชื่องช้า เพียงแค่ช้อนมองแผ่วเบา ก็ทำให้หัวใจของจวินมู่หลานว้าวุ่นไปหมด
จวินมู่หลานกำหมัดแน่น แอบคิดว่า สมแล้วที่เป็นแม่นางชูโรงของเจียงหนาน
จวินมู่หลานก้าวไปด้านหน้า แล้วเชยคางของหยินซวงขึ้น บอกว่า
“ข้าได้ยินมาว่า แม่นางชูโรงของหอพลาหกล้วนเป็นนางโลมรับแขก หากเป็นเช่นนี้ เจ้าคงไม่ใช่หญิงพรหมจรรย์แล้วสินะ?”
ดูเหมือนหยินซวงจะคิดไม่ถึง ว่าผู้ที่เป็นถึงองค์ชายกลับพูดจาต่ำทรามถึงเพียงนี้ ชั่วขณะนั้นทำให้นางชะงักอยู่ที่เดิม ไม่รู้จะตอบอย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...