ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 449

จวินมู่เหนียนเอ่ยเสียงเรียบ “เป็นฝีมือใครกันแน่ ต้องดูว่าใครได้ประโยชน์”

ซูจื่ออวี๋คิดแล้วก็กล่าวว่า “พูดแบบนี้ก็ไม่ผิด ความเจริญรุ่งเรืองในใต้หล้านี้มีไว้เพื่อผลกำไร และใต้หล้านี้ก็มีไว้เพื่อผลกำไร แต่ข้าไม่คิดว่าจะเป็นเป่ยฉู่”

จวินมู่เหนียนมองซูจื่ออวี๋ด้วยความสนใจ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง “หืม? พูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร”

ซูจื่ออวี๋กล่าวว่า “ข้อแรก ก่อนหน้านี้เป๋ยฉู่เคยถูกท่านอ๋องโจมตีจนพ่ายแพ้ พลังเสียหายอย่างหนัก เวลานี้น่าจะกำลังฟื้นฟู ข้อสองทั้งที่แคว้นใช้กลยุทธ์ผูกมิตรกับแคว้นเพื่อนบ้านและใช้กำลังกับแคว้นที่อยู่ห่างไกล เป๋ยฉู่และหนานเจียงอยู่ใกล้กัน ทั้งสองแคว้นมีมิตรภาพที่ไม่เลว เป๋ยฉู่ยังมีองค์หญิงหนึ่งคนที่เป็นพระชายาอยู่หนานเจียง แม้ว่าเป๋ยฉู่จะเกลียดตงโจว ก็ไม่น่าจะลงมือสังหารคนหนานเจียงเช่นนี้ ข้อสาม เมืองหลวงไม่เหมือนที่อื่น การป้องกันนั้นเข้มงวด คนที่มีตัวตนไม่ชัดเจน แฝงตัวเข้ามาหนึ่งหรือสองก็อาจจะเป็นไปได้ แต่หากแฝงตัวเข้ามามากมายขนาดนี้ในคราวเดียว แทบจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นถึงคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของเป๋ยฉู่”

ซูจื่ออวี๋พูดความคิดของตัวเอง โดยไม่ได้สังเกตเห็นการชื่นชมในแววตาของจวินมู่เหนียน และความประหลาดใจในแววตาของจวินมู่เยว่

จวินมู่เหนียนครุ่นคิดแล้วถามต่อ “ถ้าอย่างนั้นตามความหมายของเจ้า เรื่องนี้คนที่จะได้รัยผลประโยชน์คือใคร?”

ซูจื่ออวี๋ครุ่นคิดแล้วก็พูดต่อ “ถ้าสองพี่น้องหนานเจียงตายในตงโจว เช่นนั้นหนานเจียงและตงโจวก็เกิดสงคราม หนานเจียงในเวลานี้ยังไม่พ้นจากวิกฤติความอดอยาก แม้ว่าจะรวมพลังทั้งแคว้น ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตงโจว แต่เพราะการตายของรัชทายาทหยวนชิง คนหนานเจียงจึงจำเป็นต้องกัดฟันทำสงคราม เช่นนี้แล้ว แม้ว่าตงโจวจะถูกบังคับให้เข้าสงคราม ชัยชนะอยู่ในกำมือ สรุปง่ายๆ ใครก็ตามที่เข้าร่วมสงครามนี้ ล้วนชนะได้ และได้รับเกียรติยศทางทหารมาไว้ในมือ”

จวินมู่เยว่เบิกตากว้างแล้วเอ่ยว่า “มีคนตั้งใจยั่วยุตงโจวและหนานเจียง เพื่อจะให้ตัวเองได้มีโอกาสทำสงคราม เพื่อได้รับคุณูปการทางทหารอย่างนั้นหรือ?”

ซูจื่ออวี๋ก็เอ่ยว่า “ใช่ เดิมทีสงครามนี้ ควรจะเป็นท่านอ๋องนำทหาร แต่เพราะสองขาของท่านอ๋องใช้การไม่ได้ จึงไม่สามารทำสงครามได้ เช่นนั้นแล้วก็ต้องส่งคนอื่นไป ท่านว่าจะส่งใครไปล่ะ?”

จวินมู่เยว่เอ่ยว่า “ต้องไม่ใช่ข้าแน่ ข้ากับพี่เจ็ดเป็นพวกเดียวกัน คนผู้นั้นพยายามมาก ต้องอยากให้เสด็จพ่อส่งคนอื่นไป...”

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จวินมู่เยว่ก็มองจวินมู่เหนียนด้วยความประหลาดใจ

จวินมู่เหนียนพยักหน้า แล้วพูดต่อ “นอกจากอ๋องสิบ จวินมู่เหยียน พี่น้องร่วมมารดาของข้า”

จวินมู่เยว่กำหมัดทั้งสองข้างเอาไว้แน่น เม้มปากเป็นเส้นตรง ผ่านไปนานถึงได้พูดว่า “พี่เจ็ดหมายความว่า เรื่องนี้อาจจะเป็นฝีมือของจวงเสียนเฟยงั้นหรือ? เพื่อสร้างโอกาสให้จิ่งเหิงได้นำทัพไปสู้รับ?”

จวินมู่เหนียนเอ่ยว่า “ข้าดูแลทหารม้าในตงโจวห้าส่วน ถ้าเสด็จพี่อย่างข้ายังอยู่ เจ้าสิบต่อให้จะมีประสบการณ์ในกองทหารหลงอู่มาสิบปี ก็ไม่มีโอกาสได้นำทัพออกไปทำสงคราม อีกอย่างเรื่องสงครามทั้งสี่แคว้นได้สงบลงแล้ว เขาก็ยิ่งไม่มีโอกาส”

จวินมู่เยว่อดไม่ได้ที่จะพูดเสียงสูง เอ่ยด้วยความกระวนกระวายใจ “ดังนั้นเมื่อจวงเสียนเฟยไม่มีโอกาส ก็ต้องสร้างโอกาสอย่างนั้นหรือ? มุ่งมั่นวางแผนให้เจ้าสิบ นางมีท่านอยู่ในหัวใจสักนิดบ้างหรือไม่?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ