ซูจื่ออวี๋มองไปที่จวินมู่เหนียนอย่างรวดเร็ว ขณะที่จวินมู่เหนียนหันไปมองนางก็จับมือนางและพูดว่า “มันเป็นเพียงภาพลวงตาหยาบๆ เท่านั้น ตราบใดที่เจ้าไม่ฟังไม่ดู ก็จะเดินออกมาจากภาพมายาได้ ถ้าเจ้ากลัว ข้าจะกอดเจ้าไว้”
มุมปากของซูจื่ออวี๋กระตุก เดิมทีนางก็ตกใจและหวาดกลัว แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่จวินมู่เหนียนพูดแบบนี้แล้ว นางก็ไม่กล้าพูดว่ากังวล
ซูจื่ออวี๋ส่ายหัวเบาๆ ยกมือขึ้นปิดหูตัวเอง หันหน้าไปมองทางอื่นไม่มองหนานหยวนหรัวที่กำลังเต้นอยู่ อย่างที่คาดไว้หลังจากนั้นไม่นานนานสถานการณ์ก็กลับมาเป็นปกติ
ซูจื่ออวี๋อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าล่ะตงโจวถึงได้ยินดีให้หนานเจียงยืมเสบียง ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่เพราะความเห็นอกเห็นใจต่อประชาชนเท่านั้น แต่อาจจะมีส่วนหนึ่งที่หวาดกลัวต่อวิชาปีศาจของหนานเจียง
ชาวหนานเจียงชำนาญพวกวิชาแมลงพิษ วิชาคุณไสย ล้วนแต่เป็นสิ่งที่คนไม่สามารถป้องกันได้
ซูจื่ออวี๋กัดฟัน เริ่มตื่นตระหนกขึ้นมาไม่น้อย
......
สิ่งที่ทำให้ซูจื่ออวี๋คิดไม่ถึงก็คือหลังจากการเต้นรำหนึ่งบทเพลงของหนานหยวนหรัวแล้ว กลับไม่มีอะไรแผลงๆ ปรากฏขึ้นมาอีก
เมื่อจังหวะเต้นรำของนางหยุดลง เสียงกระดิ่งก็จบลงเช่นกัน ทั่วทั้งหอจิ้งเยว่ก็กลับคืนสู่สภาพเดิม
ทุกคนต่างพากันชื่นชมไม่หยุด ชมว่าได้เปิดหูเปิดตา งดงามจนยากจะลืม
ความหวาดกลัวจากเหตุการณ์ของนักฆ่าลอบสังหารที่มีอยู่ในใจตอนนั้น ได้หายไปอย่างฉับพลัน ทุกคนต่างรู้สึกสบายใจ
งานเลี้ยงช่วงต่อไปก็จะเป็นงานเลี้ยงที่แขกเหรื่อมีความสุข
ดูเหมือนว่าทั้งหอจิ้งเยว่ แต่มีแค่ซูจื่ออวี๋คนเดียวที่ประหม่า
นางมองไปที่หนานหยวนหรัว แล้วมองไปที่ซูจื่อหยวน พบว่าทั้งสองคนนี้ไม่ได้มีการสื่อสารกันเลย ถ้าอย่างนั้น “ยิงธนูลูกเดียวได้นกสามตัว” ของพวกนางมันอยู่ที่ไหนกันแน่?
หลังจากดื่มเหล้าไปสามรอบ และกินอาหารไปห้ารสชาติ ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงานเลี้ยง
จวินมู่เหนียนพยักหน้า ไม่ได้ส่งเสียงตอบเทียนชิง ราวกับว่าไม่ได้สนใจความสงสัยของซูจื่ออวี๋ แต่ยื่นมือไปทางซูจื่ออวี๋แล้วพูดว่า “มานี่”
ซูจื่ออวี๋แทบจะตอบสนองกับคำว่า “มานี่” ในทันที เมื่อจวินมู่เหนียนเอ่ยเช่นนี้ นางก็ยื่นมือออกมา ปล่อยให้จวินมู่เหนียนพาเข้าไปในเรือนเจียนเจีย
จวินมู่เหนียนเอ่ยว่า “คืนนี้เจ้านอนเองนะ จำคำที่ข้าบอกไว้ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรห้ามเปิดประตูเด็ดขาด และห้ามลืมตาขึ้นมาด้วย ต่อให้จะได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากข้าก็ตาม”
เมื่อจวินมู่เหนียนพูดจบแล้ว ก็หันหลังจากไป ซูจื่ออวี๋ใจเต้นแรง รีบจับแขนของจวินมู่เหนียนถามว่า “ท่านอ๋อง ท่านจะทำสิ่งใด?”
จวินมู่เหนียนเห็นซูจื่ออวี๋ร้อนใจ คิดแล้วก็พูดว่า “เจ้าเป็นห่วงข้าหรือ?”
ซูจื่ออวี๋ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับคำถามนี้ แต่ตอบไปตรงๆ ว่า “ใช่ พวกหนานเจียงมีแผนการไม่รู้จักจบจักสิ้น หนานหยวนหรัวเองก็อยากจะได้ท่าน วันนี้เป็นวันสุดท้ายของพวกเขา โอกาสสุดท้าย พวกเขาไม่มีทางนอนหลับดีๆ ไปทั้งคืนแน่”
จวินมู่เหนียนยื่นมือไปที่หน้าของซูจื่ออวี๋ ซูจื่ออวี๋ก็หลบไปโดยไม่รู้ตัว มือของจวินมู่เหนียนแข็งค้างกลางอากาศ กระอักกระอ่วนเล็กน้อย...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...