ทันใดนั้นภาพใบหน้าของซูอวี่ฉีที่กำลังยิ้มแย้มอย่างอ่อนหวาน และรอยยิ้มเปี่ยมเมตตาของบิดามารดาตนเองก็ผุดขึ้นมาในหัวของเฉินผิง ครอบครัวเป็นจุดอ่อนของเขามาโดยตลอด
ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ เก็บกระบี่ เมื่อหนิงอวี่เห็นเช่นนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วหนีไป
“หนิงอวี่ ได้โปรดพาฉันไปด้วย... พาฉันไปที...” เมื่อเห็นหนิงอวี่กำลังจะหนีไป เริ่นซือชงก็วิ่งเข้ามาคว้าขาของฝ่ายแรกเอาไว้
“ไสหัวไปซะ!” หนิงอวี่ถีบเริ่นซือชงออกไป
อย่างไรเสีย เขาก็ลำบากแทบตายกว่าจะรักษาชีวิตตนเองเอาไว้ได้ ในที่สุดตอนนี้เขาก็มีโอกาสนี้แล้ว เขาจึงไม่สนใจที่จะช่วยเริ่นซือชงอีก
เริ่นซือชงสีหน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที แล้วเขาก็ตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวเพราะอยากหนีไปจากที่นี่
ช่างน่าเสียดาย ทันทีที่เขามาถึงประตู ก็มีหลินเทียนหู่กับชื่อเฟิ่งยืนขวางทางเขาอยู่
ในตอนนั้นเอง เริ่นเสียนกับภรรยาของเขาก็ได้สติเพราะการรักษาของซุนซือเหมี่ยว แต่พวกเขากลับดูแก่ชราลงมากอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเห็นบิดามารดาของตนฟื้นแล้ว เริ่นซือชงก็วิ่งเข้ามาคุกเข่า “คุณพ่อครับ... คุณแม่ครับ... ผมผิดไปแล้ว! ผมทำเรื่องผิดพลาดไปแล้ว! ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย! ผมสัญญาว่านับแต่นี้ไปจะเป็นลูกกตัญญู!”
ในขณะเดียวกัน เริ่นเสียนก็จ้องมองบุตรชายที่อยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นเขาก็โกรธเสียจนหน้าแดงก่ำ แล้วเขาก็ถีบเข้าที่หน้าท้องของฝ่ายหลัง
ซูซู่เจินมีสีหน้าลำบากใจเหลือเกิน เธอเพียงแค่หลับตาลงโดยไม่พูดอะไรสักคำ อย่างไรเสีย เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ถึงแม้ว่าเริ่นซือชงจะไม่ใช่บุตรชายของเริ่นเสียน แต่เขาก็ยังเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธออยู่ดี
เริ่นเสียนเดินเข้ามาหาเฉินผิงพลางกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบคุณครับ คุณเฉิน หากไม่ใช่เพราะคุณ ตระกูลของพวกเราก็คงฉิบหายกันหมดแล้ว”
“คุณเริ่น คุณเกรงใจเกินไปแล้วครับ ผมก็แค่ทำงานของตัวเองเท่านั้น ในเมื่อผมรับเงินมาแล้ว แน่นอนว่าผมก็ต้องช่วยคุณ ถ้าหากคุณยังคิดจะอยู่ที่นี่ต่อ ผมสามารถช่วยคุณสลายวงแหวนอาคมได้ แต่ก่อนที่คุณจะสามารถอยู่ที่นี่ได้ ก็คงจะใช้เวลาสักสองสามวันเนื่องจากสภาพของผืนดินแห่งนี้” เฉินผิงตอบ
“ไม่เป็นไรครับ พวกเราคงไม่อยู่ที่นี่กันอีกแล้วล่ะ” เริ่นเสียนส่ายหน้าพลางถอนหายใจเล็กน้อย “ผมจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว ไม่อีกแล้วล่ะ...”
ตอนที่เห็นท่าทีตอบสนองของเริ่นเสียน เฉินผิงก็สัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังระลอกหนึ่ง อย่างไรเสีย การที่จู่ๆ ครอบครัวสุขสันต์ต้องมาประสบพบเจอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนั้น ก็เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะไม่รู้สึกทุกข์ทน
ผู้มาเยือนคือไป๋เสี่ยวซานจากตระกูลไป๋แห่งจิงตู ส่วนเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหลังคือไป๋จ่านถัง
เฉินผิงไม่คาดคิดว่าตระกูลไป๋จะมาถึงที่ทำการ
“คุณกลายเป็นหัวหน้าของสมาพันธ์ยุทธจักรแห่งเจียงหนานและเจียงเป่ยแล้ว แน่นอนว่าผมต้องมาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับคุณ” ไป๋เสี่ยวซานกล่าวพลางยิ้มให้
เฉินผิงยิ้มอย่างอับจนหนทาง “เชิญนั่งก่อนครับ”
หลังจากแน่ใจว่าไป๋เสี่ยวซานนั่งลงแล้ว เขาก็เอ่ยต่อไปว่า “ผมยังขาดประสบการณ์ แล้วผมจะคู่ควรแก่การเป็นหัวหน้าได้ยังไงกัน? ยิ่งไปกว่านั้น ผมก็ไม่มีเวลาด้วย ผมยังมีหลายเรื่องให้ต้องจัดการอยู่นะครับ-”
“คุณเฉิน ทั่วทั้งเจียงหนานกับเจียงเป่ยยังจะมีใครแข็งแกร่งไปกว่าคุณอีกงั้นเหรอ? ถึงแม้ว่าคุณจะขาดประสบการณ์ แต่คุณก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครในยุทธภพ ถ้าหากคุณกลายเป็นหัวหน้า ทั้งตระกูลของผมก็จะให้การสนับสนุนคุณอย่างเต็มที่” ไป๋เสี่ยวซานให้สัญญา
จุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ก็เพื่อให้การสนับสนุนเฉินผิง อย่างไรเสีย ตระกูลไป๋ก็จัดว่าเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงเลื่องลือทั้งในเจียงหนานและเจียงเป่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
8เหรียญเท่ากับกี่บาท...
ไม่มีบีตรเครดิตก็ต้องรออ่านแบบฟรี รอนานหน่อย...
กำลังสนุกเลย ไปไหนแล้ว รีบกลับมานะคะรับ...
รอจะอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้อ่าน แต่ไม่เป็นไรครับเราไม่ได้อ่านคุณก็ไม่ได้รายได้...
ไม่มีตอน 3867-3871 ครับ...
เกินเดือนละ...
รออยู่นะครับ...
จะลงแดงแล้ว...
หายไปหลายวัน ไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...